“โซนิค อินเตอร์เฟรท” ยื่นไฟล์ลิ่งขาย IPO 150 ล้านหุ้น เล็งเทรด mai ปลาย Q3/61
"โซนิค อินเตอร์เฟรท" หรือ SONIC ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการในระบบโลจิสติกส์ครบวงจรโดยครอบคลุมตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ยื่นไฟล์ลิ่งขาย IPO 150 ล้านหุ้น เล็งเทรด mai ปลาย Q3/61 โดยมี บล.โกลเบล็ก เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC ระบุว่า บริษัทยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 150,000,000 หุ้น คิดเป็น 27.27% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมี บล.โกลเบล็ก เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น และนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ราวปลายไตรมาส 3/61 ถึงต้นไตรมาส 4/61
โดย SONIC ประกอบธุรกิจให้บริการการจัดการอำนวยความสะดวกระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจรโดยครอบคลุมตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง (Total Logistics Service Provider) โดยเป็นผู้บริหารจัดการเคลื่อนย้ายสินค้าทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศให้แก่ผู้ประกอบการไปสู่ผู้ประกอบการ (Business to Business- B2B) ผ่านช่องทางการขนส่งทางทะเลทั้งแบบเต็มตู้และไม่เต็มตู้ ซึ่งรวมไปถึงการขนส่งแบบเทกอง การขนส่งทางอากาศ และการขนส่งทางบกโดยรถบรรทุกหัวลากและรถบรรทุกหางลาก
ทั้งนี้บริษัทมีบริษัทย่อย คือ บริษัท แกรนด์ลิงค์ จำกัด (GRANDLINK) โดย SONIC ถือหุ้นในสัดส่วน 93.70% ประกอบธุรกิจให้บริการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจร (Total Logistics Service Provider)
สำหรับวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขาย IPO นั้นเพื่อพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศคาดว่าจะเริ่มใช้งานได้ในช่วงไตรมาส 1/62 ใช้เงินลงทุน 20 ล้านบาท, พัฒนาศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าในงบลงทุนจำนวนประมาณ 60 ล้านบาทในปี 62 , ซื้อที่ดินและอาคารสำหรับอาคารสาขาที่แหลมฉบังคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 60 ล้านบาท, ซื้อรถขนส่งสำหรับธุรกิจขนส่งทางบก ทั้งรถบรรทุกหัวลาก หางลาก และรถบรรทุก ภายในปี 62 คาดว่าจะใช้งบลงทุน 60 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งเน้นจะพัฒนาการให้บริการอย่างครบวงจรโดยร่วมมือกับพันธมิตรในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อให้บริการขนส่งข้ามแดนเชื่อมต่อโดยการให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศในบริการคราวเดียว (Land-Air) เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ และให้ความสะดวกสบายแก่ลูกค้าซึ่งจะนำไปสู่โอกาสทางธุรกิจต่อไปในอนาคต และมีเป้าหมายร่วมทุนพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ และในกลุ่มประเทศ ASEAN
โดย ณ วันที่ 28 ก.พ.61 บริษัทมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 290 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน 580,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 200 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 400,000,000 หุ้น ทั้งนี้ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้บริษัทจะมีทุนที่เรียกชำระแล้ว 275 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 550,000,000 หุ้น
ส่วนโครงสร้างผู้ถือหุ้นนั้น มีกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ กลุ่มครอบครัวโฆษิอาภานันท์ ถือหุ้น 85.60% ภายหลังการเสนอขาย IPO จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 62.23% และภายหลังการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิจะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 59.03%
อนึ่ง ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 23 พ.ย.60 มีมติอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญให้แก่พนักงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย (ESOP Warrant) จำนวน 30,000,000 หน่วย และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 30,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรับรองการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะเสนอขายให้แก่พนักงานของบริษัทฯ
ด้านผลประกอบการของบริษัทในช่วงปี 58-60 ปรากฏว่า รายได้จากการให้บริการรวมเพิ่มขึ้นจาก 867.11 ล้านบาทในปี 58 มาเป็น 964.30 ล้านบาทในปี 60 โดยรายได้หลักมาจากบริการจัดการขนส่งสินค้าทางเรือ รองลงมาเป็นการขนส่งสินค้าทางบก ส่วนกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจาก 55.97 ล้านบาทในปี 58 มาเป็น 70.73 ล้านบาทในปี 60 ขณะที่กำไรสุทธิลดลง เนื่องจากปี 58 บริษัทมีรายการพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยน
โดย ณ สิ้นปี 60 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 579.81 ล้านบาท หนี้สิน 312.64 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 267.17 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทและบริษัทย่อยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ