TU มั่นใจ Q2/61 ปั๊มรายได้โต 6% หลังเล็งเพิ่มราคาสินค้ารับค่าวัตถุดิบฟื้นตัว

TU มั่นใจ Q2/61 ปั๊มรายได้โต 6% หลังเล็งเพิ่มราคาสินค้ารับค่าวัตถุดิบฟื้นตัว พร้อมตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรสุทธิที่ระดับ 4-5% ตามแผนควบคุมค่าใช้จ่ายขาย-บริหาร


นายยอร์ก ไอร์เล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินกลุ่มบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจยอดขายปีนี้จะเติบโต 5% แม้ว่าในไตรมาส 1/61 จะลดลง 5.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการปรับราคาสินค้าเพื่อสะท้อนภาวะวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐกว่า 10.2%

แต่อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 2/61 คาดว่ายอดขายจะเติบโตได้ 3-6% หลังจากราคาวัตถุดิบทูน่า และกุ้ง เข้าสู่ภาวะที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ประกอบกับการเจรจาการเพิ่มราคาสินค้าสำหรับตลาดในยุโรปและสหรัฐฯ จะเห็นผลชัดเจนในไตรมาส 2/61

“ภาพรวมทุกๆ อย่างเริ่มปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่ช่วงไตรมาส 1/61 อยู่ในช่วงของการปรับตัว และจะเริ่มเห็นผลในช่วงไตรมาส 2/61 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเจรจาด้านราคาวัตถุดิบ และการเจรจาเพิ่มราคาสินค้าให้สะท้อนกับราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่ตลาดในประเทศไทยและประเทศเกิดใหม่ รวมไปถึงตลาดจีน คาดว่าจะเติบโตได้ค่อนข้างดี” นายยอร์ก กล่าว

ทั้งนี้ ในปี 61 บริษัทฯ ตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรสุทธิ ไว้ที่ 4-5% และอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับ 15% โดยจะควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารงานต่อยอดขายรวม (SG&A) ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 10% แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ต้องประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2/61 ก่อน หลังจากไตรมาส 1/61 มีอัตรากำไรสุทธิที่ 2.79% และอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 11.31% ด้วยผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน และการปรับราคาสินค้าขึ้นไม่ทันกับราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนในปีนี้ไว้ที่ 4-5 พันล้านบาท โดยเป็นงบลงทุนปกติ เพื่อที่จะใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และซื้อเครื่องจักรใหม่ทดแทนเครื่องจักรเดิม ซึ่งไม่รวมกับงบลงทุนในการเข้าซื้อกิจการ (M&A) โดยบริษัทฯ มีการเจรจาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดบริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้น 45% ในบริษัท ทียูเอ็มดี ลักเซมเบิร์ก เอสเออาร์แอล ในประเทศลักเซมเบิร์ก พร้อมคาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ไม่ต่ำกว่า 15-20%

Back to top button