2 โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” PSL ลุ้นปี 61 เทิร์นอะราวด์ รับค่าระวางเรือพุ่งแรง 5 วันรวด!

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้นในกลุ่มเดินเรือ หลังพบว่าค่าระวางเรือ (BDI) มีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาหุ้นหลายตัวในกลุ่มปรับตัวขึ้นตอบรับกระแสดังกล่าว และหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงวานนี้ (7 มิ.ย.61) คือ บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL

โดยวานนี้ ราคาหุ้น PSL ปิดตลาดที่ระดับ 12.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือ 6.09% สูงสุดที่ระดับ 12.20 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 11.70 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 72.84 ล้านบาท

อนึ่งก่อนหน้านี้ นายคาลิด มอยนูดดิน ฮาชิม กรรมการผู้จัดการ PSL เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์รายได้ปี 61 จะเติบโตดีกว่าปีก่อน ที่ทำได้ระดับ 4,412.50 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) จากความต้องการใช้เรือเทกองในประเทศจีนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก

นอกจากนี้ ยังมองว่าภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกที่เริ่มมีการฟื้นตัว จึงคาดว่าในปีนี้จะขยายตัวเพิ่มเป็น 4% โดยเฉพาะในสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น ประเทศเกิดใหม่ในเอเชีย และยุโรป รวมไปถึงรัสเซีย โดยเชื่อว่าหากไม่มีปัจจัยลบใหม่ๆ เข้ามา เศรษฐกิจในทุกประเทศจะขยายตัวไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะช่วยหนุนให้มีการค้าขายและการขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศต่างๆ ทั่วโลก

ขณะที่ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทยังไม่มีแผนลงทุนขนาดใหญ่เพิ่มเติม เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาสามารถลงทุนได้ตามแผนที่วางไว้ โดยปัจจุบันมีกองเรือทั้งหมด 36 ลำ และอายุเฉลี่ย 6 ปี ซึ่งถือว่าเหมาะสมและสามารถขยายกิจการได้ต่อเนื่อง

“จากที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปี จึงทำให้เรามองว่าในปีนี้รายได้ของบริษัทจะมีการเติบโตได้ตามกการเพิ่มขึ้นของค่า BDI ที่ปรับเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยเป็นการฟื้นตัวตามเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะความต้องการใช้เรือเทกองในประเทศจีนที่ขยายตัวได้อย่างมาก” นายคาลิด กล่าว

ด้าน บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มปี 61 อุปสงค์-อุปทาน มีแนวโน้มเข้าสู่สมดุลย์มากขึ้น.แม้ว่าปริมาณ %Orderbook ของทั้งอุตสาหกรรมเรือเทกองจะขยับขึ้นบ้างตั้งแต่ไตรมาส 3/60 จนปัจจุบันมาอยู่ที่ราว 10% ของกองเรือโลก แต่ยังต่ำกว่าช่วงเลวร้ายสุดในช่วงปี 51-52 ที่ 74% อย่างมาก และเป็นการเพิ่มขึ้นในเรือขนาดใหญ่ Capesize และ Panamax ทั้งสิ้น

ทั้งนี้ เรือขนาดเล็ก-กลาง คือ Handsize และ Supramax ซึ่งเป็นเรือหลักของ PSL อัตรา %Orderbook ยังอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 ปี และ 13 ปี ที่ 7.8% และ 1.7% ตามลำดับ สอดคล้องกับที่สำนักต่างๆ ประเมินกันว่า Supply ของเรือเทกองจะเพิ่มขึ้นเพียงราว 1% ในปี 61-62 ขณะที่ Demand จะเติบโตสัมพันธ์กับเศรษฐกิจโลกที่ราว 3-4%

ขณะที่ระยะสั้นไตรมาส 1/61 ผลประกอบการอาจอ่อนตัวลงตามปัจจัยเชิงฤดูกาลที่เรือใหม่มักเข้าสู่อุตสาหกรรมในช่วง ม.ค. รวมถึงการหยุดยาวในช่วงเทศกาลตรุษจีน และผลกระทบจากการลดกำลังการผลิตในอุตสาหกรรมหนักของจีนเพื่อควบคุมมลพิษที่จะจบมาตรการลงใน มี.ค.นี้ โดยรวมคาดผลประกอบการของ PSL น่าจะกลับมาเติบโตได้ในไตรมาส 2/61

ส่วนมุมมองระยะยาว ปัจจัยด้านกฏเกณฑ์ ได้แก่ข้อตกลงการจัดการน้ำถ่วงเรือ และเกณฑ์การจำกัดค่ากำมะถันในเชื้อเพลิง ที่จะบังคับใช้ในปี 2562-2563 จะยิ่งกดดันให้เรืออายุมากปลดระวางเรือเร็วขึ้น รวมแล้วทำให้เราคงมุมมองระดับอุตสาหกรรมที่ว่า Demand-Supply กำลังเข้าสู่สมดุลอย่างค่อยเป็นค่อยไป ครั้งนี้เราจึงยังคงแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” อิงมูลค่าเหมาะสมที่เราประเมินไว้ที่ 14.10 บาท

ขณะเดียวกัน บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ฯ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น PSL หลังดัชนีค่าระวางเรือล่าสุด 1,340 จุด ปรับเพิ่ม 29% ในรอบสัปดาห์ และเป็นการปรับขึ้น 5 วันติดต่อกัน มองเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มเดินเรือ อีกทั้งมีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปี 61 และประเมินผลประกอบการปี 61 จะพลิกกลับมาเป็นกำไร

ขณะที่สัดส่วนสัญญาเช่าเรือระยะยาว (ปี 2561 – 65) ปรับเพิ่มต่อเนื่อง ลดความผันผวนของรายได้ในระยะยาว ขณะที่ภาพรวมธุรกิจ Demand ขยายตัวมากกว่าจำนวนกองเรือที่เพิ่มขึ้น (ข้อมูลจาก Clarksons)

ส่วนราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาจากเดือนก่อน ราว 14% ทำให้ Downside Risk จำกัด มองเป็นจังหวะในการสะสม พร้อมให้มูลค่าเหมาะสมเฉลี่ยที่ 14.68 บาท (IAA Consensus / Upside 28%)