ก.ล.ต.เร่งบอร์ด GGC สอบทุจริตวัตถุดิบคงคลังสูญ 2.1 พันลบ. พร้อมแจงผล 31 ก.ค.นี้

ก.ล.ต.เร่งบอร์ด GGC สอบทุจริตวัตถุดิบคงคลังสูญ 2.1 พันลบ. พร้อมแจงผล 31 ก.ค.นี้


สืบเนื่องจากกรณีที่บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC ได้เปิดเผยข้อมูลผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับปัญหาเรื่องข้อมูลวัตถุดิบคงคลังในระบบของบริษัท มีจำนวนที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญกับปริมาณวัตถุดิบคงคลังที่มีอยู่จริง ณ สถานที่เก็บรักษาวัตถุดิบที่ฝากไว้กับคู่ค้า

รวมทั้งยังพบการดำเนินงานของพนักงานจำนวนหนึ่งในหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดซื้อและรับวัตถุดิบไม่เป็นไปตามขั้นตอนปฏิบัติงานหรือกระทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และอาจมีความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับบริษัท ซึ่งวัตถุดิบคงคลังส่วนที่ขาดหายไปจะต้องทวงถามหรือติดตามคืนคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 2,100 ล้านบาท โดยคณะกรรมการ GGC ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวแล้ว

จากกรณีที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้นของบริษัทและผู้ลงทุนทั่วไป ก.ล.ต. จึงติดตามกรณีข้างต้นอย่างใกล้ชิด และมีหนังสือให้คณะกรรมการ GGC ชี้แจงประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการจัดการเกี่ยวกับวัตถุดิบคงคลังของ GGC การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ GGC และผู้ที่เกี่ยวข้องต่อกรณีดังกล่าว ตลอดจนการประเมินความเพียงพอของระบบควบคุมภายในของบริษัทเพื่อป้องกันมิให้เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นอีก พร้อมทั้งให้เปิดเผยผลการตรวจสอบให้สาธารณชนทราบผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2561

ล่าสุด นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ในกรณีที่พบการทุจริตภายในบริษัท เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการและผู้บริหารที่ต้องรับผิดชอบดูแลให้บริษัทดำเนินการตามกฎหมายกับบุคคลที่กระทำความผิดโดยไม่ชักช้า

ตลอดจนดำเนินการให้มีระบบควบคุมภายในที่รัดกุมมากเพียงพอ ที่จะสามารถป้องกันและตรวจพบการกระทำผิดกฎหมาย  ซึ่งการที่คณะกรรมการของ GGC จัดให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดี

ดังนั้น ก.ล.ต.จึงให้คณะกรรมการ GGC เร่งรัดตรวจสอบข้อมูลวัตถุดิบคงคลังในระบบแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญกับปริมาณวัตถุดิบคงคลังที่มีอยู่จริง และประเมินความเพียงพอของระบบควบคุมภายใน พร้อมทั้งเปิดเผยผลการตรวจสอบให้สาธารณชนทราบเป็นการทั่วไปผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 31 ก.ค.2561 และหากพบว่ามีบุคคลใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ก.ล.ต. จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

Back to top button