ศาลสั่งปรับ “เม้ง พระรามเก้า” โกงเลือกตั้ง IFEC 5 แสนบาท! มิวายแจ้งความเท็จด้วย

ศาลสั่งปรับ "เม้ง พระรามเก้า" โกงเลือกตั้ง IFEC 5 แสนบาท! มิวายแจ้งความเท็จด้วย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (1 ส.ค.61) ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก มีคำพิพากษาสั่งปรับ นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ผู้ถือหุ้นและอดีตประธานกรรมการบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC (จำเลยที่ 1) เป็นเงิน 500,000 บาท กรณีที่ถูกนายทวิช เตชะนาวากุล ผู้ถือหุ้นไอเฟคฟ้องร้องเพื่อดำเนินคดี นายวิชัย และ นายศุภนันท์ ฤทธิโพโรจน์ ในฐานะกรรมการไอเฟค (จำเลยที่ 2) ใน 2 ประเด็นคือ 1.เรื่องการแจ้งความเท็จ และ 2.การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งกรรมการบริษัทแบบ Cumulative Voting ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มของตนชนะการเลือกตั้งซึ่งเป็นวิธีการที่ผิดกฎหมาย

สำหรับประเด็นที่ 1 เรื่องการแจ้งความเท็จ จำเลยที่ 1 แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯว่า มติที่ประชุมวันที่ 10 เม.ย.2560 ได้เลือกวันประชุมสามัญวันที่ 2 พ.ค.2560 แต่ความจริงแล้ว กรรมการประชุมกันวันที่ 28 เม.ย.2560 ไม่ใช่ 10 เม.ย. 2560

โดยศาลพิเคราะห์พยานและหลักฐานแล้วเห็นว่า กรณีจำเลย 1 กำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้น ตามประมวลการแจ้งความเท็จนั้นต้องเป็นการแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตามกฎหมายหากผู้รับแจ้งไม่ใช่เจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติหน้าที่ ผู้แจ้งไม่มีความผิด และเห็นว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นแต่เพียงนิติบุคคล จึงไม่ถือว่าเป็นการแจ้งเท็จ จึงมีคำสั่งยกฟ้อง

ส่วนประเด็นที่ 2 การลงคะแนนแบบ Cumulative Voting จากการสืบพยาน นักวิชาการกระทรวงพานิชย์ยืนยันว่า ข้อบังคับบริษัทที่ 20 ของบริษัทไม่ขัดต่อพ.ร.บ.หลักทรัพย์ การเลือกตั้งแบบสะสมใช้ได้กรณีเดียวคือ กรรมการทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่ง ถึงแม้นว่าทุกคนจะลงคะแนนตามที่ประธานกล่าวอ้าง ถือว่าจำเลยที่ 1 คือ นายวิชัย  เป็นผู้บริหารบริษัทไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย ให้ปรับจำเลย 5 แสนบาท

ด้านจำเลยที่ 2 คือ นายศุภนันท์ เป็นเพียงกรรมการ แม้นว่าจำเลย 2 จะไม่โต้แย้งการกระทำของจำเลย 1 ยังฟังไม่ขึ้น ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2

ขณะที่หลังศาลมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา นายวิชัย ได้ให้ข้อมูลผ่านสื่อ โดยเปิดเผยความจริงเพียงครึ่งเดียว อ้างศาลยกฟ้องข้อหาแจ้งความเท็จ แต่ในส่วนที่ศาลลงโทษข้อหาจัดการประชุมผู้ถือหุ้นแล้วใช้วิธีลงคะแนนแบบผิดกฎหมาย และสั่งปรับ 5 แสนบาท กลับไม่มีการกล่าวถึงแต่ประการใด ไร้ซึ่งความสำนึกรับผิดชอบในฐานะผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน ซึ่งต้องรักษาผลประโยชน์บริษัท และรักษาผลประโยชน์ผู้ถือหุ้น ไม่ใช่ทำทุกอย่างเพื่อรักษาผลประโยชน์และอำนาจให้กับตนเอง สอดคล้องกับศาลแพ่งที่มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2561 ให้เพิกถอนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 ของบริษัท ที่มีมติแต่งตั้งกรรมการ 3 คน ประกอบด้วย นายธีติพันธ์ เทพผดุงพร ,พลตำรวจเอกสุนทร ซ้ายขวัญ และนายปริญญา วิญญรัตน์ เป็นกรรมการ

Back to top button