STEC-ROJNA รวยหุ้น GULF

สำนักข่าวรัชดา

มี 2 หุ้นที่ “พอร์ตพองโต” ช่วงที่ราคาหุ้นบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ปรับ ตัวขึ้นเกือบ 20% รอบ 1 เดือนที่ผ่านมา คือบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC และบริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) หรือ ROJNA นั่นเอง

การ “แอบรวย” หุ้น GULF ทั้งของ STEC และ ROJNA มาจากปลายปีที่แล้ว ทั้ง 2 บริษัทเข้าซื้อหุ้นไอพีโอ GULF หุ้นละ 45 บาท โดย STEC ซื้อไว้ 40 ล้านหุ้น (ประมาณ 1,800 ล้านบาท) และ ROJNA ซื้อไว้ 20 ล้านหุ้น (ประมาณ 900 ล้านบาท)

จากวันนั้นถึงวันนี้ราคาหุ้น GULF ปรับขึ้นอยู่ที่ 78 บาท จึงเท่ากับว่า STEC และ ROJNA บันทึกกำไรส่วนต่างราคาหุ้น GULF แบบ Mark to Market ในพอร์ตลงทุนหุ้นละ 33 บาท

นั่นหมายถึง STEC บันทึกกำไรจากพอร์ตลงทุน 1,320 ล้านบาท ส่วน ROJNA บันทึกกำไรจากพอร์ตลงทุน 660 ล้านบาท แม้ไม่ใช่กำไรที่เกิดขึ้นจริง (ยังไม่ได้ขาย) แต่ด้วยเวลาเพียง 10 เดือน มีกำไรจากหุ้น GULF มากกว่า 72% ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่าย ๆ

ดูจากสตอรี่ GULF แล้ว ท่าทางราคาหุ้นไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่..เริ่มจากใกล้ ๆ นี้ หุ้น GULF มีลุ้นข่าวใหญ่ ถูกนำเข้าคำนวณดัชนี MSCI ช่วงเดือน พ.ย. 2561 ว่ากันว่า ครั้งนี้ไม่น่าพลาด.!

หากได้เข้าคำนวณจริง ราคาหุ้นคงทิ้งห่างจากปัจจุบันไม่น้อยทีเดียว..แต่จะโฉบเฉี่ยวถึง 100 บาทหรือไม่..มีโอกาสได้เห็นเช่นกัน ภายใต้เงื่อนไขงบไตรมาส 3/2561 ต้องพลิกกลับมามีกำไร จากไตรมาส 2/2561 เกิดอุบัติเหตุเงินบาทอ่อน เลยเสียฟอร์มพลิกขาดทุนกว่า 438 ล้านบาท

หากมองกันยาว ๆ สตอรี่ต่างแดนทั้ง “โซลาร์ฟาร์มเวียดนาม” และ “โรงไฟฟ้าโอมาน” เป็นไฮไลต์ที่จะมีผลต่อราคาหุ้น GULF มีอัพเป้าหมายราคาหุ้นเป็น 84 บาท ถือว่ามีช่องว่างอัพไซด์ไม่น้อยเช่นกัน..!?

นี่ยังไม่รวมโรงไฟฟ้าไอพีพีอีก 5,000 เมกะวัตต์ ช่วงอีก 4-5 ปีข้างหน้าอีกนะ เอาเป็นว่าหาก GULF เดินได้ตามโดยไม่เกิดอุบัติเหตุใด ๆ หรือสะดุดขาตัวเองซะก่อน มูลค่าหุ้น GULF มีโอกาสเดินทางไกลแน่นอน.!?

สะท้อนกลับมาที่ STEC กับ ROJNA ลงทุนเพียงแค่ 10 เดือน ยังได้กำไรกว่า 72% นี่ถ้าถือต่อไปอีก 2-3 ปี พอร์ตลงทุนคงโป่งพองมากกว่าตอนนี้อีกหลายเท่าตัวกระมัง..!!

…อิ อิ อิ…