FLOYD แย้มผลงานไตรมาส 4/61 โตต่อ พร้อมลุยประมูลงานรัฐ-เอกชนต่อเนื่อง
FLOYD แย้มผลงานไตรมาส 4/61 โตต่อ สะสมแบ็คล็อก 467 ลบ. พร้อมลุยประมูลงานรัฐ-เอกชนต่อเนื่อง
นายทศพร จิตตวีระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) หรือ FLOYD เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯในงวด 9 เดือนของปี 2561 (1 ม.ค.- 30 ก.ย.61) บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการ 264.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.78 ล้านบาท คิดเป็น 14.62% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 231.12 ล้านบาท
โดยรายได้จากการให้บริการของบริษัทฯมาจากการรับรู้รายได้งานอาคารสูง งานแนวราบซึ่งเป็นงานห้างสรรพสินค้า และงานปรับปรุงงานเพิ่มอื่นๆ ทำให้บริษัทฯทยอยรับรู้รายได้จากการให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 31.59 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 17.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14 ล้านบาท คิดเป็น 79.69%
“9 เดือนแรกของปีนี้ ทั้งรายได้และกำไร ถือว่าดีมากโดยกำไรสุทธิโตเฉียด 80% เช่นเดียวกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นกว่า 14% จากภาพรวมเศรษฐกิจ และการลงทุนในประเทศกลับมาฟื้นตัวต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ FLOYD ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รับเหมาติดตั้งงานวางระบบครบวงจร ที่ได้รับการยอมรับทั้งในเรื่องคุณภาพงานและการบริการที่รวดเร็ว ด้วยทีมงานวิศวกรที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในธุรกิจ” นายทศพร กล่าว
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/61 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องภาพรวมเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น หลังมีความชัดเจนในการเลือกตั้ง ส่งผลให้ผู้ประกอบการเอกชนมีความมั่นใจในการลงทุน ซึ่งจะทำให้ช่วงที่เหลือของปีนี้มีงานประมูลโครงการใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น ทั้งงานโครงการโครงสร้างพื้นฐานการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ อาคารที่พักอาศัย และห้างสรรพสินค้า เป็นต้น โดย FLOYD มีความพร้อมที่จะเข้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อสะสมงานในมือ (Backlog) เข้ามาเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีอยู่ 467 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การเข้าประมูลงานใหม่ๆ ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ในกลุ่มลูกค้าเก่ายังคงมีอย่างต่อเนื่อง ส่วนในกลุ่มลูกค้าใหม่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น
“ภาพรวมผลประกอบการทั้งปี 2561 แนวโน้มรายได้ของบริษัทฯ ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้เติบโตราว 10-15% เมื่อเทียบกับปีก่อน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯมีนโยบายหลักที่จะใช้การบริหารงานให้มีประสิทธิภาพ โดยการจัดทำข้อมูลในระบบคลาวด์มาช่วยในด้านต่างๆ การติดตามปัญหาหน้างาน เพื่อลดการสูญเสียทั้งเวลาและต้นทุน และเป็นการเก็บข้อมูลค่าใช้จ่าย เพื่อนำไปพัฒนาโครงการใหม่” นายทศพร กล่าว