EPCO ย้ำผลงานปีนี้”นิวไฮ”รับธุรกิจไฟฟ้าโต ปักธง COD “โซลาร์เวียดนาม” ก.ค.62 ชู IRR สูง21%
EPCO ย้ำผลงานปีนี้ "นิวไฮ" รับธุรกิจไฟฟ้าโตแกร่ง ปักธง COD “โซลาร์เวียดนาม” ก.ค.ปีหน้า ชู IRR สูงลิ่ว 21%
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ออกอากาศทาง Facebook Live ข่าวหุ้นธุรกิจ และสถานีวิทยุกระจายเสียงกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) FM 102 MHz. เกี่ยวกับความคืบหน้าโครงการโซลาร์ฟาร์มในประเทศเวียดนามที่มีการร่วมลงทุนกับบริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CSS ว่า ขณะนี้โครงการดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยโครงการดังกล่าวมีมูลค่าการลงทุนที่ระดับ 2.8 พันล้านบาท
สำหรับสัดส่วนการลงทุน แบ่งเป็น บริษัทถือหุ้น 65%, CSS ถือหุ้น 25% และทางเวียดนามถือหุ้น 10% ขณะเดียวกันบริษัทประเมินอัตราผลตอบแทน (IRR) สำหรับโครงการนี้ที่ระดับ 18-21% โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าให้กับ Electricity of Vietnam (EVN) เป็นเวลา 20 ปี ในอัตรารับซื้อไฟฟ้าประมาณ 3 บาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้และกำไรสุทธิในปี 62 จะทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องจากปีนี้ เป็นไปตามการเติบโตของธุรกิจโรงไฟฟ้า ซึ่งในปีหน้าบริษัทฯ จะจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มเติมอีก 131 เมกะวัตต์ (MW) แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ประเทศเวียดนาม กำลังการผลิต 110 เมกะวัตต์ คาดจะ COD ได้ในเดือนก.ค.62 และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 21 เมกะวัตต์ คาดจะ COD ได้ในเดือนต.ค.62 ส่งผลทำให้ในปีหน้า บริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตโดยรวมที่ 555 เมกะวัตต์ จากปีนี้คาดอยู่ที่ 424 เมกะวัตต์
อีกทั้งบริษัทฯ อยู่ระหว่างยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมจากรัฐบาลเวียดนาม กำลังการผลิต 100 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการประมาณ 5,000 ล้านบาท คาดเห็นความชัดเจนได้ในช่วงไตรมาส 1/62 และคาดว่าจะได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ในช่วงปลายปี 62
โดยจะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ในปี 63 เป็นต้นไป ซึ่งจะใช้ระยะเวลาการก่อสร้างประมาณ 3 ปี อีกทั้งบริษัทฯ ก็มีความสนใจที่จะเข้าประมูลโครงการโซลาร์ลอยน้ำในเขื่อนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งคาดว่าทางหน่วยงานภาครัฐน่าจะออกประกาศ TOR ได้เร็วๆ นี้
ด้านราคาหุ้น EPCO ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 2.68 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 3.08% สูงสุดที่ระดับ 2.74 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.54 บาท มูลค่าการซื้อขาย 5.78 ล้านบาท