ได้เปรียบแล้วเหิมเกริม
“ผมเป็นคนเขียนในรัฐธรรมนูญ …ให้ ส.ว. 250 คน มีสิทธิ์โหวตนายกรัฐมนตรี ผมเป็นคนเริ่มต้นคำถามพ่วง... ปรบมือให้ผมหน่อย”
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
“ผมเป็นคนเขียนในรัฐธรรมนูญ …ให้ ส.ว. 250 คน มีสิทธิ์โหวตนายกรัฐมนตรี ผมเป็นคนเริ่มต้นคำถามพ่วง… ปรบมือให้ผมหน่อย”
ทนายวันชัย สอนศิริ อดีต สปท. โฆษกคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ แพร่คลิปอย่างภาคภูมิใจ แต่ไม่ทราบ ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 50 ล้านคนจะปรบมือให้ หรือใช้อวัยวะอื่น
ทนายวันชัยยังคุยถึงการเลือก ส.ว.แบบสมัครมาเลือกกันเอง แล้วให้ คสช.จิ้มจาก 200 คนเหลือ 50 คน บวกแต่งตั้ง 194 คนและ 6 ผ.บ.เหล่าทัพ ซึ่งคาดกันว่าจะเป็นฐานสืบทอดอำนาจ
ก็ไม่ทราบจะอวดอะไร การเลือก ส.ว.ระดับอำเภอเมื่อวันอาทิตย์ มีผู้สมัคร 7,200 คน จากที่ตั้งเป้าไว้เป็นแสน บางอำเภอไม่ต้องเลือก เพราะผู้สมัครไม่ครบ บางอำเภอเลือกเฉพาะกลุ่ม ขนาดนั้นยังมีคนสอบตก เพราะมาสาย และทำบัตรเสีย ผู้สมัครส่วนใหญ่เกือบ 6 พันคนได้ผ่านเข้าระดับจังหวัด และส่วนใหญ่ก็จะผ่านเข้ามาเลือกระดับประเทศ เพราะผู้สมัครไม่พอ โดยเฉพาะผู้สมัครที่มีองค์กรรับรอง ต้องเลือกกันเองแค่ 8 จังหวัด อีก 69 จังหวัดผ่านฉลุย
ถ้าเป็นประกวดนางงาม คงมีคนดูขว้างรองเท้า แต่นี่คือการคัดตัว ส.ว. ที่ใช้เงินภาษี 1,303 ล้าน ฝันเฟื่องของ กรธ. สนช.ล่มสลายคาตา แต่ยังจะเอา 50 คนมาเลือกนายกฯ
กกต.เพิ่งมีมติเอกฉันท์ ให้บัตรเลือกตั้งมีชื่อผู้สมัคร มีโลโก้พรรค แม้ต้องยุ่งยากแยกพิมพ์ 350 เขต บัตรยาวเฟื้อยยิ่งกว่าฎีกาผ้าป่า แต่ถ้าตามใจท่านผู้นำ ก็โดนรุมยำยิ่งกว่าแบ่งเขตอัปลักษณ์
ตัดสินใจถูกแล้วครับ แต่บอกให้ประชาชนรู้ด้วยว่า ที่เป็นอย่างนี้เพราะ กรธ. สนช. อยากให้การเลือกตั้งยุ่งยากเข้าไว้ เคยกาบัตรสองใบ ก็ให้เลือกตัวบุคคลก่อนพรรค เคยใช้เบอร์เดียวทั้งประเทศ ก็ต่างเขตต่างเบอร์ ให้คนจำยาก
ตอนลงประชามติรับร่าง คน 15 ล้านไม่คิดว่ามันยุ่งขนาดนี้ คิดแต่ว่ารับ ๆ ไปจะได้เลือกตั้ง แต่พอเจอของจริง ก็จะสั่งสมความไม่พอใจ ยิ่งถ้าเลือกตั้งไม่ยุติธรรม ใช้อำนาจเอาเปรียบ แล้วเอา 250 ส.ว.มาลากถู ถึงแม้คนไทยวันนี้ไม่อยากนองเลือดเหมือนพฤษภา 35 แต่จะมีปัญหาความชอบธรรม เสถียรภาพไม่มั่นคงตั้งแต่ต้น
เช่นเดียวกับข้อเรียกร้องแก้รัฐธรรมนูญ แก้กติกาเลือกตั้ง ประชาชนก็จะเห็นด้วยล้นหลาม ไม่ว่านิยมพรรคไหน
ถามจริง ที่รัฐบาลทหารจำใจเลือกตั้งเพราะอะไร เพราะอยากให้ต่างชาติยอมรับ กลับมาลงทุนค้าขาย แต่พอเรียกร้องให้ต่างชาติมาสังเกตการณ์ รัฐมนตรีเฒ่ากลับหัวชนฝา ไม่เห็นด้วยให้เข้ามา คนไทยมีศักดิ์ศรี ดูแลกันเองได้
86 ปีประชาธิปไตย รัฐประหาร 13 ครั้ง นี่ใช่ไหม ศักดิ์ศรีคนไทย หนึ่งในสองประเทศที่ยังปกครองด้วยรัฐบาลทหาร ในโลกใบนี้
การเชิญต่างชาติมาสังเกตการณ์ เป็นพยานความโปร่งใส ไม่ใช่เรื่องน่าอาย เป็นเครื่องมือต่อรองได้ด้วยซ้ำ (ถ้าไม่คิดทำอะไรสกปรก) ใช้บอกโลกได้ว่าเห็นไหม องค์กรนานาชาติรับรองการเลือกตั้งไทย
เข้าใจตรงกันนะ ไม่ให้มาสังเกตการณ์ ก็ใช่ว่าเขาจะไม่สอดส่อง สถานทูตต่าง ๆ เก็บข้อมูลทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังไปชั่งน้ำหนัก ประเมินเสถียรภาพว่าเมืองไทยยังน่าลงทุนหรือไม่
ตรงนี้ต่างหากที่น่าห่วงใย เพราะการเลือกตั้งปลุกความหวังให้คนอยากได้สิ่งใหม่ ไม่ว่าเชียร์พรรคไหน ก็อยากให้พรรคที่ตัวเองเลือกได้เป็นรัฐบาล อุตส่าห์หาเสียงแข่งกันแทบตาย อะไรวะ มี 250 ส.ว.ที่ไม่ได้เลือก มากำหนดว่านายกฯ ต้องคนหน้าเดิม
เอาเปรียบด้วยอำนาจ ด้วยกติกา จนได้ชัยชนะแต่สวนกระแสอารมณ์สังคม คิดหรือว่าจะไปรอด