TPLAS ปี 62 จะโตสดใส

คุณค่าบริษัท

ก้าวสู่แผนของการดำเนินงานธุรกิจของ บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) จำกัด (มหาชน) หรือ TPLAS ในปี 2562…

ทางบริษัทยังคงมั่นใจว่าจะก้าวเป็นผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารที่มีคุณภาพสูง รวมถึงความหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในประเทศ และภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ บริษัทมีการตั้งเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15%

สำหรับผลการเติบโตจะเป็นผลจากยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์กลุ่มถุงพลาสติก และฟิล์มถนอมอาหาร พร้อมด้วยมีการเตรียมที่จะผลิตสินค้าใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเริ่มทดลองตลาดได้ช่วงต้นปี 2562

ดังนั้นจะส่งผลให้ในอนาคต บริษัทสามารถกระจายความเสี่ยงของรายได้จากเดิมที่บริษัทมีรายได้จากยอดขายผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติกและฟิล์มถนอมอาหารเพียงอย่างเดียว 

กลยุทธ์การเจาะตลาดในผลิตภัณฑ์ใหม่นั้น บริษัทยังคงมุ่งเน้นไปยังลูกค้ากลุ่มเดิม และขยายฐานไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมรายใหม่ ๆ อาทิ อุตสาหกรรมอาหาร ห้างสรรพสินค้า หรือ Modern Trade และโรงแรม เนื่องจากสินค้าชนิดนี้ยังเป็นที่ต้องการของตลาด ด้านอุปโภคและบริโภค ซึ่งถือว่ามีดีมานด์ความต้องการใช้สูง และยังเป็นสินค้าที่สามารถนำมาทดแทนผลิตภัณฑ์เดิม ๆ ที่มีอยู่ในท้องตลาดได้

ส่วนผลการดำเนินงานช่วงที่ผ่านมา..ไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 141.40 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 138.93 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น แต่บริษัททำกำไรลดลงเหลือ 5.28 ล้านบาท หรือ 0.024 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 8.87 ล้านบาท หรือ 0.044 บาทต่อหุ้น  โดยมีสาเหตุหลักมาจากราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนขายเพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายบริหารที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 414.54 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 394.84 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 17.80 ล้านบาท หรือ 0.086 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 16.02 ล้านบาท หรือ 0.080 บาทต่อหุ้น

ประกอบกับบริษัทมีความคล่องตัวทางการเงินสูง ทำให้การขยับขยายงานเป็นไปอย่างราบรื่น  เนื่องจากมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากถึง 215.07 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียนเพียง 62.45 ล้านบาท ได้ค่า CURRENT RATIO อยู่ที่ระดับ 3.44 เท่า แสดงว่าสภาพคล่องของบริษัทมีอย่างล้นหลามพอไว้ขยายกิจการในอนาคต จนไม่ต้องพึ่งพิงเงินกู้จากสถาบันการเงิน

เมื่อบริษัทมีความคล่องตัวทางการเงินค่อนข้างสูง จึงไม่ต้องกังวลกับปัญหาหนี้สินที่มีอยู่ และเมื่อนำหนี้สินรวมที่มีอยู่ 75.77 ล้านบาท เทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้น 288.88 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 0.26 เท่า แสดงว่าบริษัทนี้ปลอดจากภาระหนี้สินจริง ๆ

สิ่งสำคัญหลังจากที่บริษัทมีการระดมทุน ทำให้บริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุดเป็น 102.73 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้าที่เข้าตลาด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 มีจำนวน 9.79 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม  สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการขยายอาคารโรงงานใหม่ และการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ สำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติก และปรับปรุงอาคารโรงงานเดิม รวมถึงสำนักงานบริษัท เพื่อเป็นการรองรับความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์จากถุงพลาสติก และการขยายตลาดนั้น ปัจจุบัน อาคารโรงงาน ได้มีการปรับพื้นที่ เตรียมการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่อาคารสำนักงานมีความคืบหน้าไปกว่า 50% ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่า การก่อสร้างจะดำเนินเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปลายปี 2562

ทั้งนี้ หากอาคารโรงงานใหม่ สามารถรองรับกำลังการผลิตเพิ่ม ได้มากเกือบเท่าตัว หรือไม่น้อยกว่า 30% ปัจจุบันกำลังการผลิตรวมถุงพลาสติกประมาณ 10,200 ตันต่อปี และกำลังการผลิตฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ประมาณ 1,440 ตันต่อปี

TPLAS ลุ้นทำผลงานโดดเด่นในช่วงปี 2562 ว่าจะสดใสตามตัวยอดขายที่คาดว่าจะเติบโตขึ้น !!

…

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1. นายธีระชัย ธีระรุจินนท์ 160,080,000 หุ้น 59.29%
2. นางดลนภา เจียมกนก 8,050,000 หุ้น 2.98%
3. นางพัชรี ฉัตรแก้วบริบูรณ์ 8,050,000 หุ้น 2.98%
4. นางศรีสุมล แตงน้อย 8,050,000 หุ้น 2.98%
5. นางเพ็ญ ธีระรุจินนท์ 8,000,000 หุ้น 2.96%

รายชื่อกรรมการ

1. นายมนตรี โสคติยานุรักษ์ ประธานกรรมการ, กรรมการอิสระ
2. นายธีระชัย ธีระรุจินนท์ ประธานกรรมการบริหาร, กรรมการผู้จัดการ, กรรมการ
3. นางพูนสิน ธีระรุจินนท์ กรรมการ
4. นางพัชรี ฉัตรแก้วบริบูรณ์ กรรมการ
5. นายสุภชาต แตงน้อย กรรมการ