ไม่หนำใจ SMM เล่นต่อส่อเค้าชนซิลลิ่ง 4 วันรวด-โบรกฯเตือน P/E สูงหวั่นถูกขายทำกำไร

ไม่หนำใจ SMM เล่นต่อส่อเค้าชนซิลลิ่ง 4 วันรวด-โบรกฯเตือน P/E สูงหวั่นถูกขายทำกำไร โดย ณ เวลา 11.43 น. อยู่ที่ระดับ 2.48 บาท ปรับตัวขึ้น 0.48 บาท หรือ 24% ราคาสูงสุด 2.60 บาท ต่ำสุด 2.22 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 69.40 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ SMM ล่าสุด ณ เวลา 11.43 น. อยู่ที่ระดับ 2.48 บาท ปรับตัวขึ้น 0.48 บาท หรือ 24.00% ราคาสูงสุด 2.60 บาท ต่ำสุด 2.22 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 69.40 ล้านบาท

โดยราคาจ่อปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดของวัน(Ceiling) เป็นครั้งที่ 4 หลังจากเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2561 ราคาหุ้นทำจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1.19 บาท และวันที่ 24 ธ.ค. ราคาปิดที่ระดับ1.54 บาท ส่วนวานนี้(25)ปิดตลาดที่ 2.00 บาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวัน ส่วนราคาหุ้นวันนี้(26ธ.ค.)หากปิดสูงสุดของวันจะอยู่ที่ระดับ 2.60 บาท  

โดยราคาหุ้น SMM ปรับตัวขึ้นแรงหลังจากบริษัทเปิดเผยว่า อยู่ระหว่างแผนการปรับโครงสร้างกิจการบริษัท ดึงบริษัท ทีม เอ โฮลดิ้ง 2 จำกัด (TAH2) ผู้ถือหุ้นใหญ่ใน “เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์)” หรือ PDITL ผู้ผลิตและจำหน่ายสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลไฟฟ้าเข้า Backdoor หุ้น

พร้อมโอนกิจการทั้งหมดเข้าเป็นของบริษัท ขณะที่บริษัทเตรียมออกหุ้นเพิ่มทุน 2.15 หมื่นล้านหุ้นชำระค่าโอนกิจการทั้งหมดมูลค่า 1.29 หมื่นล้านบาท  เพื่อขยายธุรกิจเดิมสู่ธุรกิจผลิตและจำหน่ายสายไฟฟ้า ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีกระแสเงินสดที่ชัดเจนและมีศักยภาพในการเติบโตที่สูง ส่วนธุรกิจสื่อเตรียมขายออกไป คาดแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/62

โดยภายหลังการปรับโครงสร้างกิจการของบริษัท และการเข้าทำธุรกรรมการรับโอนกิจการทั้งหมด บริษัทจะประกอบธุรกิจในลักษณะ Holding Company หรือประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น

นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการยื่นคำขอให้พิจารณารับหลักทรัพย์ใหม่กับตลาดหลักทรัพย์ฯ (Relisting) ของบริษัท เพื่อให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับหุ้นสามัญของบริษัท เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากการเข้าทำธุรกรรมการรับโอนกิจการทั้งหมดดังกล่าวจัดเป็นรายการประเภทที่ 4 หรือการเข้าจดทะเบียนหลักทรัพย์โดยทางอ้อม (Backdoor Listing) โดยอนุมัติแต่งตั้งให้บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

พร้อมทั้งอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของบริษัท ได้แก่ ตั้งโรงงานผลิตสายไฟฟ้า สายเคเบิล สายโทรศัพท์ สายลวดทุกชนิด และอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด ทุกประเภท เพื่อจำหน่ายรวมทั้งรับจ้างผลิตสายไฟฟ้าและสายลวดทุกชนิด ,ซื้อและจำหน่ายเครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องจักรกล และเครื่องทุ่นแรงทุกชนิด รวมทั้งสายไฟฟ้า สายเคเบิล สายโทรศัพท์ อุปกรณ์โทรคมนาคมและพลังงาน สายลวด และสายเคเบิลทุกชนิด รวมทั้งพิจารณาอนุมัติการเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัท จากเดิมบมจ.สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย เป็นบมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น และเปลี่ยนชื่อย่อจาก “SMM” เป็น “STARK”

อนึ่ง บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด  เป็นบริษัทจำหน่ายสายเคเบิ้ลจากสหรัฐอเมริกาที่ตระกูล ตั้งคารวคุณ เจ้าของบริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ที่ได้ซื้อกิจการมา โดยมีนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ เป็นผู้แลธุรกิจ

ด้านบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุว่า บริษัทแจ้งตลาดฯว่าจะมีการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ให้กับ บริษัท TEAM A Holding 2 (TAH2) จำนวน 21,500 ล้านหุ้น และนาย รีวิน เพทายบันลือ 1,000 ล้านหุ้น 666.7 ล้านหุ้น และนาย ณัฐพงศ์ คีตวรรัตน์ 333.3 ล้านหุ้น รวมจำนวนหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมดที่22,500 ล้านหุ้น ที่ราคาเพิ่มทุนหุ้นละ 0.60 บาท (มี silent period 1 ปี) โดยจะมีการโอนกิจการ TAH2 มายัง SMM เสมือนกับว่า TAH2 เข้าจดทะเบียนในตลาดฯทางอ้อม (Backdoor Listing)

นับว่า TAH2 เป็นบริษัทโฮลดิ้งส์ ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชันแนล (ไทยแลนด์) (PDITL) ทำธุรกิจผลิตจำหน่ายสายไฟฟ้าและสาย Cable ไฟฟ้ามีฐานกำไรใหญ่กว่า SMM ล่าสุด 9M61 มีกำไรสุทธิ 258 ล้านบาท ขณะที่ SMM ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายหนังสือการ์ตูน Pocket Book นวนิยายกำลังภายใน สถานีวิทยุ ดาวเทียม และ website กีฬา ถือว่าธุรกิจไม่สดใสนัก 9M61 เป็นขาดทุนสุทธิ 104 ล้านบาท

คาดว่านักลงทุนมีการเก็งกำไรที่ SMM จะพลิกมาเป็นกำไรได้ การย้ายกลุ่มหลักทรัพย์ หลังได้รับโอน TAH2 มา แต่ในแง่ P/E ไม่ถูก โดยประเมินเบื้องต้น 2 บริษัทเมื่อนำกำไรทั้งปีมารวมกัน จะได้กำไรที่ 205 ล้านบาท มี P/E ปี 61 ที่ 171 เท่า แต่หากในอนาคตเลิกทำธุรกิจ SMM ที่ขาดทุน P/E จะลดลงเป็น 102.7 เท่า ที่สูงเพราะจำนวนหุ้นหลังเพิ่มทุนที่สูงมาก ไม่ทันกับกำไรที่เพิ่มหลังได้ TAH2 นั่นคือเมื่อรวมกับหุ้นเดิม SMM ที่ 323.2 ล้านหุ้น จำนวนหุ้นหลังเพิ่มทุนสูงมากเป็น 22,823.2 ล้านหุ้น

โดยสมมุติให้ปี 62 SMM มีกำไรเพิ่มเท่าตัวเป็น 688 ล้านบาท EPS ที่ 0.03 บาท P/E ปี 62 ก็ยังสูงเป็น 51.3 เท่า ส่วน P/BV เมื่อปรับส่วนทุนที่เพิ่มขึ้นหลังเพิ่มทุนกับส่วนผู้ถือหุ้นงวดไตรมาส 3/61 ที่ 181 ล้านบาท จะได้เป็น 13,681 ล้านบาท คิดเป็น Book Value ที่ 0.60 บาท P/BV ก็อยู่ในเกณฑ์ไม่ได้ถูกมากเป็น 2.6 เท่า แนะระวังการเข้าเก็งกำไร

Back to top button