แม้ววันจันทร์ตู่วันศุกร์
Podcast ทักษิณ ขึ้นอันดับหนึ่งในวันเดียว ในขณะที่มีคนแซวว่า ลุงนักแต่งเพลงรู้จัก Podcast หรือยัง ถามลูกน้องสิ ต้องหมุนคลื่นไหนถึงฟังได้
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
Podcast ทักษิณ ขึ้นอันดับหนึ่งในวันเดียว ในขณะที่มีคนแซวว่า ลุงนักแต่งเพลงรู้จัก Podcast หรือยัง ถามลูกน้องสิ ต้องหมุนคลื่นไหนถึงฟังได้
Good Monday ไม่พูดเรื่องการเมืองซักคำ เพราะไม่จำเป็น เรื่องการเมืองเอาไว้ซัดกันหมัดต่อหมัด อย่าง “ความยุติธรรมแบบป้อม ๆ” แต่แน่ละ ทักษิณพูดย่อมมีความหมายทางการเมือง การแสดงวิสัยทัศน์ ตั้งแต่เรื่องเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจฐานราก ไปจน AI ความรู้ใหม่ในการรักษาสุขภาพ ฯลฯ มันก็อดไม่ได้ที่คนฟังจะเอาไปเปรียบเทียบกับรายการคืนวันศุกร์ หรือบ่นรายวัน ในแง่ความมีวิสัยทัศน์ของผู้นำ
พูดอย่างนี้ ไม่ใช่ยกแม้วเลิศลอยอะไรหรอก โลกปัจจุบัน คนเก่งกว่า รู้ดีกว่าทักษิณ ในแต่ละเรื่องที่ทักษิณพูด ก็น่าจะมีเยอะ เพียงแต่คนเหล่านั้น หรือความคิดใหม่ ๆ ไม่สามารถมีบทบาทในสังคมไทย ที่ถูกครอบงำด้วยอำนาจกลุ่มเดียว ทัศนะด้านเดียว สังคมต้องเชื่อฟัง
อันที่จริง สมัยแม้วเป็นนายกฯ จัดรายการพบประชาชน ผมก็ค่อนไปทางไม้เบื่อไม้เมา แต่มองย้อนไป ยุคทักษิณก็เป็นยุคที่ทำให้สังคมได้ถกเถียงกันเรื่องใหม่ ๆ ไม่ว่าสื่อ นักคิด นักวิชาการ ภาคประชาสังคม ต้องปรับตัวกันขนานใหญ่ เพราะตามไม่ทันอัศวินคลื่นลูกที่สาม ที่มีไอเดียใหม่ ๆ มาขายทุกวัน ทั้งแนวทางพัฒนาประเทศ นโยบายสร้างความนิยม การแก้ปัญหาที่แตกต่าง ฯลฯ ซึ่งนักข่าวไทยที่เคยแต่เสนอข่าวปิงปอง เอาคำพูดฝ่ายค้านไปถามรัฐบาล เอาคำพูดรัฐบาลไปถามฝ่ายค้าน งงเป็นไก่ตาแตก เพราะฝ่ายค้านก็งงด้วยเหมือนกัน
จะเห็นด้วยเห็นต่างก็ตาม นั่นคือบรรยากาศยุคประชาธิปไตย ที่ทำให้ทุกฝ่ายพัฒนาความคิด ต่างจากหลังรัฐประหาร 49 พอไม่มีทักษิณพูด ผมนั่งดูทีวี อดไม่ได้ต้องหัวร่อลั่นสังเวชใจ เมื่อเห็นข่าวนายพลนำทหารไปทำประโยชน์แล้วให้โอวาทยืดยาว ถอยโลกกลับไปราว 30 ปี
เกือบห้าปีมานี้ ภูมิปัญญาสังคมแทบหยุดนิ่ง อยู่ภายใต้การให้โอวาท ทวงบุญคุณ ถ้าไม่มีทหารมาทำรัฐประหาร ชาติบ้านเมืองคงพินาศ ถ้ารักชาติรักแผ่นดิน จงอยู่ในความสงบ รอรับความอนุเคราะห์ ตั้งแต่บัตรคนจน ไปถึงการเลือกตั้ง ซึ่งจะให้เลือกเมื่อไหร่ ก็เป็นความอนุเคราะห์เช่นกัน ไม่ควรเรียกร้องต้องการ จะเป็นพวกบกพร่องสร้างความวุ่นวาย
ประเทศจะเดินไปทางไหน ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง สังคม รัฐประหารจัดวางยุทธศาสตร์ชาติไว้ให้หมดแล้ว พวกท่านคือคนที่เก่งที่สุด มีวิสัยทัศน์เหนือกว่า มีความสามารถสูงสุด เพราะคนที่เก่งกว่ามีวิสัยทัศน์กว่า ถูกกีดกันออกไปหมด
ย้ำอีกที ไม่ใช่ทักษิณเก่งดีเสียหมด แต่ข้อเปรียบเทียบสำคัญคือรัฐธรรมนูญ 2540 ทำให้เกิดการเมืองประชาธิปไตยที่มีการแข่งขัน ทั้งนโยบาย วิสัยทัศน์ ฝีมือบริหาร ถ้ามีเวลาพัฒนาไปอีกขั้นก็จะเกิดการประชันคนเก่ง นักธุรกิจ นักคิด ที่เป็นทางเลือกแตกต่างหลากหลาย
แต่รัฐประหาร 49 ล้มโต๊ะ การจองล้างด้วยกฎหมาย วางข้อห้ามข้อสกัดต่าง ๆ ทำให้คนใหม่ ๆ ที่มีความสามารถ มีฝีมือบริหารธุรกิจ เข็ดขยาดไม่อยากเข้าสู่การเมืองตลอดชาติ นอกจากนักต่อสู้พันธุ์แท้ที่สู้มาจนเดนตาย
รัฐประหาร 57 รัฐธรรมนูญ 60 ยิ่งไปใหญ่ เพราะสถาปนาระบอบปกครองด้วยรัฐราชการ รัฐความมั่นคง ที่มีทหาร ศาล องค์กรอิสระ เป็นแกนกลาง ควบคุมประเทศด้วยการจำกัดภูมิปัญญา เอาความสงบและเชื่อฟังไว้ก่อน เศรษฐกิจ สังคม อนาคต ไม่มีอะไรสำคัญเท่าความมั่นคง
นั่นคือจิตวิญญาณที่สะท้อนออกมาในคืนวันศุกร์