MACO เพิ่มทุน..เพิ่มมูลค่า.!?
ข่าวการเพิ่มทุนครั้งล่าสุดของบริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO โดยให้ผู้ถือหุ้นเดิมร่วมลงขันใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน มูลค่า 660.27 ล้านบาท (อัตราส่วน 10 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่) ที่ราคาหุ้นละ 1.60 บาท ถ้ามองเผิน ๆ ผู้ถือหุ้นเดิมต้องใส่เงินเข้าไปเพิ่ม...
สำนักข่าวรัชดา
ข่าวการเพิ่มทุนครั้งล่าสุดของบริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO โดยให้ผู้ถือหุ้นเดิมร่วมลงขันใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน มูลค่า 660.27 ล้านบาท (อัตราส่วน 10 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่) ที่ราคาหุ้นละ 1.60 บาท ถ้ามองเผิน ๆ ผู้ถือหุ้นเดิมต้องใส่เงินเข้าไปเพิ่ม…
คำถามที่ตามมา คือ จะคุ้มค่าหรือไม่..??
ถ้าดูวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนครั้งนี้ พบว่า แตกต่างจากการเพิ่มทุนของหลาย ๆ บริษัท เนื่องจากมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะนำเงินไปขยายการลงทุน…สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวธุรกิจ.. !!
โดยแบ่งเม็ดเงินออกเป็น 3 ก้อน ก้อนแรกจำนวน 390 ล้านบาท นำไปปรับปรุงสื่อโฆษณา Street Furniture บริเวณตอม่อรถไฟฟ้า BTS ได้รับอนุมัติจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) แล้วเมื่อเดือน พ.ย. 2561 รวมถึงเพื่อใช้ในการชำระหนี้อันเนื่องมาจากการลงทุนดังกล่าว โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนภายในเดือน เม.ย. 2562
ก้อนที่สองจำนวน 50 ล้านบาท นำไปลงทุนในบริษัทร่วมทุนกับกลุ่ม Belino Investments ในประเทศอินโดนีเซีย ผ่านบริษัท VGI MACO (SINGAPORE) หรือ VGI MACO ที่ MACO เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 40%
ส่วนก้อนสุดท้ายจำนวน 220 ล้านบาท จะใช้ขยายตลาดในอาเซียน และเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับรองรับแผนการลงทุนในอนาคต…
จะเห็นว่ากรณีนี้มีความคล้ายคลึงกับบริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO ที่ก่อนหน้านี้ก็เพิ่มทุน 344.86 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปขยายธุรกิจ รองรับแผนลงทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์มที่เวียดนาม จำนวน 2 โครงการ ขนาดกำลังการผลิต 100 เมกะวัตต์ และซื้อโรงพิมพ์ในเครือเนชั่น เพื่อขยายธุรกิจสิ่งพิมพ์ เช่นกัน
แน่นอนว่า…เบื้องต้นอาจเกิดไดลูชันเอฟเฟกต์กับตัวผู้ถือหุ้น MACO เอง
แต่จะเกิดแรงกดดันน้อยกว่า..เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นที่เพิ่มทุนเพื่อนำเม็ดเงินไปใช้หนี้ ใช้รักษาสถานะทางการเงิน หรือแก้ปัญหาเครื่องหมาย C เช่น บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK ที่สัดส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนจดทะเบียน จึงต้องมีการเพิ่มทุน เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว เป็นต้น
เมื่อหันไปดูโอกาสทางธุรกิจของ MACO เอง นับว่าสดใส มีการต่อยอดจากแม่…บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI (ผู้ถือหุ้นใหญ่ MACO) ในฐานะได้รับสิทธิบริหารสื่อโฆษณาบนรถไฟฟ้า BTS
ตอกย้ำด้วยตัวเลขสำคัญทางการเงินของ MACO ที่ถือว่าไม่ธรรมดา โดยผลประกอบการงวดสิ้นปี 2558 มีกำไร 170 ล้านบาท จากรายได้ 721 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 23.66% งวดสิ้นปี 2559 มีกำไร 102 ล้านบาท จากรายได้ 756 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 13.49% งวดสินปี 2560 มีกำไร 220 ล้านบาท จากรายได้ 965 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 22.88%
ส่วนงวด 9 เดือนแรกปี 2561 ฟาดกำไรไปแล้ว 183 ล้านบาท จากรายได้ 1,067 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 17.18%
นักวิเคราะห์ประเมินว่า เม็ดเงินก้อนแรก 390 ล้านบาท ที่ MACO จะนำไปปรับปรุงสื่อโฆษณา Street Furniture บริเวณตอม่อรถไฟฟ้า BTS เป็น LED นั้น จะช่วยเพิ่มรายได้อย่างมีนัยสำคัญ คาดสร้างมูลค่าเพิ่มได้ราว 300 ล้านบาทต่อปี
นั่นเท่ากับว่า เงินที่ผู้ถือหุ้น MACO ใส่เข้าไปเพิ่มก็ไม่น่าจะสูญเปล่า…
อย่างน้อย ๆ ก็พออุ่นใจว่าน่าจะได้รับผลตอบแทนจากมูลค่าการลงทุนที่คุ้มค่าแหละ..!!
…อิ อิ อิ…