TACC บวกต่อ 5% รับผบห.ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 1.5 พันลบ. โบรกฯเชียร์ซื้อเป้า 4.20 บ.
TACC วิ่ง 3 วันติด! บวกต่อ 5% รับผบห.ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 1.5 พันลบ. โบรกฯเชียร์ซื้อเป้า 4.20 บ. หลังราคาร่วงสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว ลุ้นรับปันผลแจ่ม ล่าสุด ณ เวลา 10.25 น. อยู่ที่ 2.48 บาท บวก 0.12 บาท หรือ 5.08% สูงสุดที่ 2.60 บาท ต่ำสุดที่ 2.40 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 3.49 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC ล่าสุด ณ เวลา 10.25 น. อยู่ที่ 2.48 บาท บวก 0.12 บาท หรือ 5.08% สูงสุดที่ 2.60 บาท ต่ำสุดที่ 2.40 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 3.49 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาหุ้น TACC ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 3 วันติด นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.28 บาท เมื่อวันที่ 14 ม.ค.2562
โดย นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร TACC เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2562 บริษัทฯคาดว่ารายได้จะเติบโต 15-20% จากปีก่อน หรือประมาณ 1.5 พันล้านบาท เนื่องจากจะเน้นกลยุทธ์การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเดิม และเดินหน้าออกสินค้าใหม่มากขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งนี้ประเมินว่าสถานการณ์โดยรวมของธุรกิจคาดมีทิศทางที่ดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา
ขณะที่ก่อนหน้านี้ บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น TACC ประเมินราคาเป้าหมายที่ 4.2 บาทต่อหุ้น โดยมีมุมมอง Slightly negative ต่อข้อมูลที่ได้งานประชุม เนื่องจากคาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/61 ของบล.โนมูระ พัฒนสิน อาจมี downside จากประเด็นการตั้งสำรองหนี้ 10-15 ล้านบาท หรือคิดเป็น downside risk ต่อประมาณการกำไรทั้งปี 2561 ราว 10-16% เหลือราว 80-85 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายถือเป็น one time item ไม่มีผลต่อประมาณการในปีถัดๆไป โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานปกติ เราคาดจะทยอยฟื้นตัวได้จากการเติบโตของธุรกิจในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ยังคงคาดกำไรปกติปี 2562 ฟื้นตัว 19% อานิสงส์หลักมาจากการเติบโตของยอดขายในประเทศ หนุนรายได้ปี 2562 จะกลับมาโต 9% อีกครั้งจากทรงตัวในปี 2561 ขณะที่ด้านอัตรากำไรขั้นต้นก็จะดีขึ้นจากการไม่มีผลกระทบจากการเก็บภาษีความหวานเหมือนช่วงต้นปี 2561 แล้ว
ดังนั้นจึงแนะนำ “รอซื้อเมื่ออ่อนตัว” เพราะมองว่าที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับลงสะท้อนปัจจัยลบต่างๆ ไปมากแล้ว โดยปรับลงมาซื้อขายเหลือบน PE เหลือ 21 เท่า (คิดเป็น PE-1.5 SD) แล้ว แม้กำไรไตรมาส 4/61 จะไม่เด่น แต่คาดถูกพยุงด้วยปันผลที่บล.โนมูระ พัฒนสิน คาดครึ่งปีหลังปี 2561 จ่ายได้ 0.08-0.09 บาท/หุ้น (yield 3%) อีกทั้ง คาดกำไรที่จะกลับมาโตอีกครั้งในปีหน้า