SPA บวก 2% นิวไฮรอบ 4 เดือน โบรกฯชี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนฟื้นหนุนกำไรไตรมาส 1/62 โตเด่น
SPA บวก 2% นิวไฮรอบ 4 เดือน โบรกฯชี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวแรง หนุนกำไรไตรมาส 1/62 โตเด่น แนะซื้อเป้า 15.80 บ. ล่าสุด ณ เวลา 11.40 น. อยู่ที่ 14.80 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 2.07% สูงสุดที่ 15 บาท ต่ำสุดที่ 14.80 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 20.27 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA ล่าสุด ณ เวลา 11.40 น. อยู่ที่ 14.80 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 2.07% สูงสุดที่ 15 บาท ต่ำสุดที่ 14.80 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 20.27 ล้านบาท
โดย ราคาหุ้น SPA ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 4 เดือน นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 14.90 บาท เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2561
ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” SPA ราคาเป้าหมาย 15.80 บาท/หุ้น โดยพบว่าแนวโน้มการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนจะรุนแรงกว่าที่ตลาดคาด โดยจากการลงพื้นที่พบว่า นักท่องเที่ยวจีนได้เข้าใช้บริการร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยว ในปริมาณที่ล้นทะลักหลายแห่งในกรุงเทพ ซึ่งปรากฏการณ์นี้ได้รับการยืนยันว่าได้รวมไปถึงร้าน Let’s Relax Spa ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจที่ทำรายได้สูงสุด มาร์จิ้นสูงสุด และเกี่ยวเนื่องกับปริมาณนักท่องเที่ยวจีนมากที่สุดอีกด้วย
โดยคาดว่า SPA จะเริ่มกลับมาแสดงกำไรเติบโตระดับ 40% เมื่อเทียบจากปีก่อน อีกครั้งในไตรมาส 1/62 จากคาดเพียงโต 4% เมื่อเทียบจากปีก่อนในไตรมาส 4/61 และได้กลับมาอยู่ในสายตาของนักลงทุนอีกครั้ง พร้อมกับโอกาสที่ตลาดจะเริ่ม re-rate valuation เป็นราคาเหมาะสมที่สูงขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้จากปริมาณนักท่องเที่ยวจีนเดือน ธ.ค. 2561 ได้เริ่มกลับมาฟื้นตัว 24% จากเดือน พ.ย. และ พลิกเป็นบวกครั้งแรก 3% เมื่อเทียบจากปีก่อน ขณะที่บริษัทด้านท่องเที่ยวรายใหญ่ของจีนก็ได้รายงานว่า ชาวจีนยังคงเลือกประเทศไทยเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ในการท่องเที่ยวต่างประเทศในเทศกาลตรุษจีน 5-10 ก.พ. นั้น
โดยได้ตรวจสอบลงพื้นที่ในเขตราชประสงค์ ราชดำริ แล้วพบว่า มีโอกาสที่การฟื้นตัวจะดีกว่าคาดมากในเดือน ก.พ. โดยคาดจะทะลุ 1 ล้านคนในเดือน ก.พ. จากจุดต่ำสุดที่ 6.5 แสนในเดือน ก.ย. 2561 และ 8.4 แสนในเดือน ธ.ค. 2561 ซึ่งคาดจะทำให้ตลาดกลับมา “เพิ่มน้ำหนัก” หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวมากขึ้น
ขณะเดียวกันยังคงชอบ SPA เพราะเป็นผู้ได้ประโยชน์โดยตรงรองจากเพียง AOT ในเวลานี้ เนื่องจากลูกค้าชาวจีน มีสัดส่วนสูงถึง 55% รองลงมาได้แก่ เกาหลี-ญี่ปุ่น 10% โดยรูปภาพการให้บริการวานนี้ในหลายสาขาทั้ง กทม. และ ภูเก็ต ของ SPA ถือได้ว่าเป็นระดับที่หนาแน่นมาก (ดูรูปหน้า 2)
ทั้งนี้ถึงแม้จะคาดว่าในไตรมาส 4/61 ผลกำไรจะผิดหวัง ลดลง 9% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และโต 4% เมือ่เทียบจากปีก่อนแต่จากฐานสาขาที่เพิ่มขึ้นเป็น 55 แห่ง ณ สิ้นปี 2561 และโมเมนตัมข้างต้น คาด SPA จะกลับมาทำกำไรระดับ 55-60 ล้านบาทได้ หรือจะสร้างการเติบโตของกำไรสุทธิได้ถึง 40% เมื่อเทียบจากปีก่อนอีกครั้ง
นอกจากนี้มองว่าราคาหุ้นสะท้อนความกังวลต่องบการเงินในช่วงท้ายปี 2561 ไปแล้ว โดยการขยายสาขาจาก 41 แตะ 55 แห่งในปลายปี 2561 และทยอยเพิ่มอีก 10 สาขาในปี 2562 ผนวกกับการท่องเที่ยวที่ฟื้นแรง คาดจะทำให้กำไรสุทธิปี 2562 ยังคงโตได้ 28% เมื่อเทียบจากปีก่อน (จากฐานกำไรปี 2561 ที่คาดผิดหวังที่ 204 ล้านบาท)