BBL จับมือกลุ่ม PTTGC ศึกษา-พัฒนาธุรกรรมชำระเงินแบบ L/C เน้นความโปร่งใสปลอดภัยสูง

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL กล่าวว่า ธนาคารได้รับความไว้วางใจจากบริษัท จีซี มาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่นส์ จำกัด (GCM) บริษัทในกลุ่มบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ร่วมปฏิวัติการทำธุรกรรม Letter of Credit (L/C) โดยใช้ Distributed Ledger Technology (DLT) หรือ Enterprise Blockchain Platform นับเป็นการพัฒนาครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งจากเดิมการทำธุรกรรมต้องมีเอกสารเข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมากจากหลายองค์กรที่เกี่ยวข้อง ให้มาอยู่ในรูปแบบดิจิทัลบน Enterprise Blockchain Platform เดียวกัน ซึ่งจะทำให้การเปิด L/C ดำเนินการได้อย่างง่ายดาย คล่องตัว และรวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งมีความโปร่งใส มีความปลอดภัยสูง สามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน

ทั้งนี้ การศึกษาพัฒนาครั้งนี้ได้ลดระยะเวลาการดำเนินการและลดการใช้เอกสารลงกว่าครึ่งหนึ่ง และทำให้การตรวจสอบข้อมูลระหว่างกัน (Reconciliation) ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เพราะทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะจัดเก็บข้อมูลชุดเดียวกันและรับทราบการเปลี่ยนแปลงสถานะไปพร้อมๆ กัน นับเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพทั้งด้านธุรกิจของลูกค้าและบริการธนาคาร

โดย การศึกษาในครั้งนี้ ธนาคารร่วมมือกับ GCM ทำธุรกรรม L/C บน Voltron Application เพื่อให้บริษัท PT. Bukitmega Masabadi ที่เป็นคู่ค้าของ GCM ประเทศอินโดนีเซีย เปิด Electronics L/C ผ่านธนาคารกรุงเทพ สาขาอินโดนีเซีย มายังธนาคารกรุงเทพ ประเทศไทย เพื่อให้ GCM  ส่งสินค้าออกตามข้อตกลงที่ระบุใน L/C นับได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาบริการด้านการค้าระหว่างประเทศ โดยใช้ Enterprise Blockchain Platform

ส่วนในระยะต่อไป ธนาคารจะมีการพัฒนาบริการด้านการค้าระหว่างประเทศอื่น ๆ โดยใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ ๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าให้ประสบความสำเร็จในสนามการค้าบนโลกดิจิทัลยุคใหม่ได้อย่างยั่งยืน ตอกย้ำความมุ่งมั่นพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นเพื่อนคู่คิด ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าระหว่างประเทศที่พร้อมสนับสนุนลูกค้าให้ประสบความสำเร็จในทุกเวทีการค้าโลก ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

 

ด้าน นายณรงค์ชัย พิสุทธิ์ปัญญา กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ GCM กล่าวว่า GCM ได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพ พัฒนาการทำธุรกรรม L/C โดยใช้ Enterprise Blockchain Platform ระหว่าง GCM ในประเทศไทย กับ PT. Bukitmega Masabadi คู่ค้าในประเทศอินโดนีเซีย นับเป็นความสำเร็จในการพัฒนาครั้งสำคัญในการใช้ประโยชน์จาก Distributed Ledger Technology เข้ามาปฏิวัติการทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ โดยใช้เวลาน้อยลงอย่างมาก

ทั้งนี้ เนื่องจากกระบวนการส่งออกด้วย L/C ในรูปแบบเดิม หากข้อมูลบนเอกสารไม่ถูกต้องจำเป็นต้องมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง (Amendment) ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายและการส่งออกต้องเลื่อนระยะเวลาออกไป แต่เมื่อมีการนำ Voltron Application มาทดสอบ ทำให้สามารถตรวจสอบความถูกต้องระหว่างกันได้ก่อนการ Issue L/C และสามารถเห็นข้อมูลการเปลี่ยนแปลงและการดำเนินการของทุกฝ่ายไปพร้อม ๆ กัน ทำให้การส่งออกสินค้าไปถึงมือลูกค้าและได้รับชำระเงินค่าสินค้าได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากการรับส่งข้อมูลแบบ Real-time ระหว่างผู้เกี่ยวข้องใน Trade Network บน Blockchain อีกทั้งยังสามารถป้องกันการปลอมแปลงเอกสารที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งการศึกษาและพัฒนานี้สอดคล้องกับพันธกิจต่อลูกค้าของ GCM ที่มุ่งมั่นในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และธุรกิจอย่างครบวงจรเหนือความคาดหวัง เพื่อนำมาซึ่งความสำเร็จของลูกค้าในการเติบโตทางธุรกิจอย่างไร้ขีดจำกัด

อนึ่ง ธนาคารกรุงเทพ เป็นธนาคารไทยแห่งแรก ที่ได้เข้าร่วมโครงการ Voltron กับกลุ่มพันธมิตร R3 ตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อศึกษาและพัฒนาบริการ L/C โดยใช้ Enterprise Blockchain Platform และด้วยจุดแข็งในด้านเครือข่ายสาขาของธนาคารกรุงเทพที่ครอบคลุมในเขตเศรษฐกิจสำคัญของโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย และอาเซียน จึงสามารถช่วยเชื่อมโยงเครือข่ายการค้าระหว่างประเทศของโครงการ Voltron  ให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคที่สำคัญของโลก รวมถึงภูมิภาคเอเชีย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในภาคธุรกิจนำเข้าและส่งออกได้จริงภายใต้ Enterprise Blockchain Platform ไม่ว่าคู่ค้าจะอยู่ในภูมิภาคใดของโลก