จำคุก “เม้ง พระรามเก้า” 2 ปี! ฟ้องเท็จ “อ๋า IFEC” โกงขายที่ดินบริษัท

จำคุก “เม้ง พระรามเก้า” 2 ปี! ฟ้องเท็จ “อ๋า IFEC” โกงขายที่ดินบริษัท


สืบเนื่องจากกรณี วิชัย ถาวรวัฒนยงค์  อดีตประธานกรรมการ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC กล่าวหาว่า นายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IFEC นำที่ดินของบริษัทฯ ยกให้ผู้ซื้อฟรี เอื้อประโยชน์กลุ่มทุนที่แสวงหาผลประโยชน์ใน IFEC ทั้งๆ ที่เป็นการโอนที่ดินที่ใช้เป็นทางเข้าออกของที่ดินที่บริษัทฯ ขายให้ผู้ซื้อไปก่อนหน้านี้แล้ว และเป็นการกระทำตามเงื่อนไขของสัญญาซื้อขายที่ดิน ซึ่งทำให้ IFEC ขายที่ดินได้ในราคาสูงขึ้นถึง 4 เท่า โดยนายสิทธิชัยและกรรมการบริหารทุกคนทำตามมติบอร์ด และสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน อีกทั้ง นายวิชัย เองเป็นคนลงลายมือชื่อขายที่ดินดังกล่าวเองด้วย

ขณะที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทราเห็นว่า นายวิชัย และ นายสิทธิชัย มีการขัดแย้งกันในการแย่งอำนาจการบริหารงานในบริษัท จึงมีการดำเนินคดีแพ่งและอาญา เพื่อกลั่นแกล้งกันเพื่อบีบบังคับกดดันอีกฝ่าย เพื่อเป็นประโยชน์ที่ตนกับพวกจะได้เข้าไปเป็นผู้บริหารกิจการ IFEC ซึ่งการกระทำของนายวิชัยเป็นการนำความเท็จมาฟ้องต่อศาลว่านายสิทธิชัยทำความผิดทางอาญาอันไม่เป็นความจริง

นอกจากนี้ ศาลยังไม่เชื่อที่นายวิชัยอ้างว่าลายมือที่ลงนามในสัญญาซื้อขายที่ดินของตนเป็นลายมือปลอม เนื่องจากศาลพิจารณาจากลักษณะลีลาการเขียนและตัวอักษรลายมือชื่อของนายวิชัยในหลายๆ เอกสารนั้นเป็นลายมือของบุคคลคนเดียวกัน ยากที่ผู้อื่นจะปลอมหรือเลียนแบบได้

อย่างไรก็ตาม วานนี้ (20 ก.พ.62) ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มีการพิจารณาคดี หมายเลขดำที่ 1313/2560 ซึ่ง นายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  IFEC ยื่นฟ้องคดีอาญากับ นายแพทย์วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ อดีตประธานกรรมการ IFEC และ IFEC ในความผิดฐานฟ้องเท็จ คดีที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายที่ดินที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา

โดยศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา มีคำพิพากษาตัดสินสั่งจำคุก นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ อดีตประธานกรรมการ IFEC เป็นเวลา 2 ปี ในข้อหาฟ้องเท็จ

อีกทั้งก่อนหน้านี้ นายวิชัย เคยนำคดีเรื่องการขายที่ดินที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา มาฟ้องนายสิทธิชัยเป็นจำเลยในคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ.773/2560 ที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งศาลมีคำพิพากษายกฟ้องไป เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2561 ซึ่งนายวิชัยก็ไม่เคยกล่าวแย้งว่าลายมือชื่อของตนนั้นเป็นลายมือชื่อปลอมแต่ประการใด

ส่วนอีกคดี ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เป็นคดีหมายเลขดำที่ พ.1490/2560 นายวิชัย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 3 โบรกเกอร์ (บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนิตี้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ว่ามีการปลอมลายมือชื่อในการทำสัญญากู้เงินเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งตนไม่เคยจำนำหุ้น และยังขอคุ้มครองไม่ให้มีการขายทอดตลาดหุ้นของตน แต่ต้องจำนนกับคำซักค้านและหลักฐาน ตามที่ปรากฏในคำพิพากษา เมื่อวันที่ 27 กันยายน  2561

โดยศาลระบุว่า นายวิชัย จบการศึกษาแพทย์ศาสตร์บัณฑิต มีประสบการณ์วิชาชีพนายแพทย์เป็นเวลานาน เป็นถึงประธานบริษัทของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ มีประสบการณ์ซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์มากกว่า 10 ปี ด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิ ศาลเชื่อว่านายวิชัยต้องรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าการลงลายมือชื่อในเอกสารใดใดนั้นย่อมมีผลผูกพันตามกฎหมาย การที่จะลงลายมือชื่อในเอกสารใดใด ย่อมเชื่อได้ว่านายวิชัยต้องรู้แล้วว่าเป็นเอกสารอะไรและจะผูกพันตนเองอย่างไรในอนาคต

ทั้งนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า นายวิชัย จะดำเนินการเพื่อขอยื่นอุทธรณ์ต่อศาลหรือไม่ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จะรายงานให้ทราบเป็นรายต่อไป

Back to top button