PRM เด้ง5% โบรกฯเชียร์ซื้อ เป้า10.60บ. จ่อรับรู้รายได้เต็มปี “Big Sea” ดันผลงานปีนี้สดใส

PRM เด้ง5% โบรกฯเชียร์ซื้อ เป้า10.60บ. จ่อรับรู้รายได้เต็มปี "Big Sea" ดันผลงานปีนี้สดใส โดย ณ เวลา 15.50 น. ราคาอยู่ที่ 6.40 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 4.92% สูงสุดที่ 6.45 บาท ต่ำสุดที่ 6.05 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 100.52 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM ณ เวลา 15.50 น. อยู่ที่ 6.40 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 4.92% สูงสุดที่ 6.45 บาท ต่ำสุดที่ 6.05 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 100.52 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 3 เดือน นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 6.55 บาท เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.61

ด้าน บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ (26 ก.พ.62) แนะนำ “ซื้อ” PRM ราคาเป้าหมาย 10.60 บาท/หุ้น โดย PRM รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/61 อยู่ที่ 154 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 49% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน, ลดลง 30% จากไตรมาสก่อน) โดยกำไรสุทธิปี 2561 ทรงตัวจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน มาที่ 712 ล้านบาท หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 8 ล้านบาทในปีนี้ กำไรก่อนรายการพิเศษของบริษัทอยู่ที่ 704 ล้านบาท ซึ่งเติบโต 13% จาก 620 ล้านบาทในปี 2560

ขณะที่รายได้จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน จากเป็นปีที่บริษัทปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ : รายได้ในไตรมาส 4/61 ของ PRM อยู่ที่ 1,159 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน, ลดลง 3% จากไตรมาสก่อน) โดยการเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน มาจากธุรกิจขนส่งน้ำมันในประเทศตามการรับรู้รายได้จากการเข้าซื้อ Big Sea สำหรับทั้งปี 2018 รายได้ทรงตัว ลดลง 0.5% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน มาอยู่ที่ 4,480 ล้านบาท โดยรายได้จากธุรกิจขนส่งในประเทศยังเป็นรายได้หลักของบริษัทสัดส่วน 42% และ FSU 31%

ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นไตรมาส 4/61 อยู่ที่ 21.8% ลดลงจาก 25% จากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้นจาก 18.5% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน โดยการลดลงมาจาก GPM ของเรือขนส่งในประเทศลดลงมาที่ 20% จาก 25.6% ในไตรมาส 3/61 จากมีการปรับสัญญาการให้บริการลูกค้าเป็นการรับประกันจำนวนเที่ยววิ่งและรับรู้รายได้ล่วงหน้าในไตรมาส 3/61 และจำนวนเรือเที่ยวกลับที่ลดลง

ในขณะที่ GPM ธุรกิจเรือขนส่งระหว่างประเทศกลับมาเป็นบวก +2.9% จากขาดทุนในช่วงที่ผ่านมาตามอัตราค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น, GPM ของเรือ FSU ดีขึ้นมาอยู่ที่ 32.6% ในไตรมาส 4/61 จาก 27% จากไตรมาสก่อน จากอัตราใช้บริการที่ระดับ 90% และมีลูกค้ามาเช่าเรือมากยิ่งขึ้นสอดคล้องกับมาตรการ IMO2020

อย่างไรก็ดี จากผลประกอบการปี 2561 ที่ต่ำกว่าที่คาดไว้ โดยอยู่ระหว่างปรับประมาณการผลประกอบการของเรา อย่างไรก็ตาม มองว่าปีนี้น่าจะเห็นทิศทางที่ดีขึ้นของบริษัท จากการรับรู้รายได้เต็มปีจากการเข้าลงทุน 70% ใน Big Sea

พร้อมทั้งเรือขนส่งระหว่างประเทศ (Aframax) ที่กลับมาทำกำไรได้จากอัตราค่าขนส่งและค่าเช่าเรือ Aframax ปรับขึ้นจาก Supply เรือในตลาดที่ลดลง ซึ่งคาดจะยังเห็นทิศทางนี้ต่อเนื่อง

รวมถึงเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นสำหรับธุรกิจ FSU เนื่องจากเริ่มเห็นลูกค้ากลับเข้ามาเช่าเรือ FSU จากการที่จะเริ่มบังคับใช้มาตรการ IMO2020 ดังนั้นยังคงแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ PRM เนื่องจากมองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาสะท้อนผลประกอบการที่อ่อนตัวในปี 2561 ไปแล้ว

Back to top button