AAV ซื้อ NOK โอกาสหรือเพิ่มภาระ.?
ถือว่า “เพิ่มโอกาส” หรือ “เพิ่มภาระ” กันแน่..!? คือโจทย์ใหญ่ที่ผู้บริหารบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ต้องขบคิดอยู่ไม่น้อย หลังยอมรับว่า “อยู่ระหว่างการพิจารณาถึงความเหมาะสมในการซื้อหุ้นบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK แต่ยังไม่มีผลผูกพันกันแต่อย่างใด..!!!”
สำนักข่าวรัชดา
ถือว่า “เพิ่มโอกาส” หรือ “เพิ่มภาระ” กันแน่..!? คือโจทย์ใหญ่ที่ผู้บริหารบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ต้องขบคิดอยู่ไม่น้อย หลังยอมรับว่า “อยู่ระหว่างการพิจารณาถึงความเหมาะสมในการซื้อหุ้นบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK แต่ยังไม่มีผลผูกพันกันแต่อย่างใด..!!!”
การยอมรับดังกล่าว เกิดมาจากมีการเจรจาอย่างไม่เป็นทางการระหว่าง AAV กับกลุ่ม “จุฬางกูร” ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ NOK (ประมาณ 66.78%) เพื่อซื้อหุ้น NOK ทั้งหมดจากกลุ่มจุฬางกูร หลังกลุ่มจุฬางกูรรวบหุ้น NOK จนกลายเป็นผู้ถือหุ้นแบบเบ็ดเสร็จ..
นั่นหมายถึงหาก AAV ซื้อ NOK จะมีสิทธิ์และอำนาจบริหารจัดการเต็มที่ ส่วนบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ที่ถือหุ้นเพียง 15.94% อาจตั้งท่ารอขายหุ้น NOK ให้ AAV ที่มีเงื่อนไขบังคับว่าหากซื้อหุ้น NOK จากกลุ่มจุฬางกูร จะต้องทำเทนเดอร์หุ้นด้วยเช่นกัน
เท่ากับว่า THAI สบโอกาสปลดระวางล้างพอร์ตหุ้น NOK ได้แบบเนียน ๆ..ซึ่งในทางปฏิบัติที่ผ่านมา การบินไทยไม่ได้มี “นกแอร์” อยู่ในแผนธุรกิจอยู่แล้ว..
มาถึงโจทย์ที่ว่า “โอกาสและความเสี่ยง” หาก AAV ตกลงปลงใจซื้อหุ้น NOK จริง..!!??
เริ่มจากโอกาสในเชิงยุทธศาสตร์ “นกแอร์” อาจเป็นการ “เติมช่องว่าง” บางเส้นทางที่ “ไทยแอร์เอเชีย” เข้าไม่ถึง อาทิ จังหวัดท่องเที่ยวเมืองรองต่าง ๆ ที่มีข้อจำกัดเรื่องขนาดสนามบิน..ทำให้ “ไทยแอร์เอชีย” ลงไม่ได้
ในเชิงการตลาด การซื้อ “นกแอร์” ถือเป็นการ “ซื้อมาเพื่อฆ่าแบรนด์” หรือฆ่าแบรนด์นกแอร์ทำให้แบรนด์ “ไทยแอร์เอเชีย” โดดเด่น กลายเป็นเจ้าแห่ง “สายการบินต้นทุนต่ำ” ทันที นั่นหมายถึงลูกค้าสายการบินต้นทุนต่ำ จะโฟกัสไปที่สายการไทยแอร์เอเชียเพียงสายการบินเดียว..!!
เช่นเดียวกับสายการบินระหว่างประเทศ ที่ทับซ้อนกันอยู่ ระหว่าง “สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์” กับ “สายการบินนกสกู๊ต” ที่อาจเหลือเพียงแค่ “ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์” เช่นกัน
ส่วนเรื่องความเสี่ยง ดูจากโครงสร้างทางการเงินหาก AAV เข้าซื้อ NOK จะต้องแบกรับภาระหนี้ 17,000 ล้านบาทและรับรู้ผลขาดทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท เข้าไปด้วย ขณะที่สินทรัพย์อยู่ที่ 14,000 ล้านบาท นี่ยังไม่รวมต้นทุนจากการดำเนินการต่าง ๆ
อีกจุดหนึ่งที่จะบอกได้ว่า AAV ซื้อ NOK จะได้คุ้มเสียหรือไม่..จะอยู่ตรงราคาซื้อขายหุ้น NOK ด้วยเช่นกันว่าจะให้ “พรีเมียม” หรือ “ดิสเคาต์” กันมากน้อยแค่ไหน..!?
ตรงนี้แหละ..จะเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินว่า “ดีลดัน” หรือ “ดีลล่ม” อีกด้วย
…อิ อิ อิ…