กกพ.ไฟเขียว GPSC ควบรวม GLOW หลังปิดดีลขายรฟฟ. “SPP1” ให้ BGRIM

นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กกพ. เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบให้บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC รวมกิจการกับบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW แล้ว หลังรับทราบการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท โกลว์ เอสพีพี 1 จำกัด (SPP1) ที่ GLOW ได้ขายหุ้นใน SPP1 ให้กับกลุ่มบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 “กกพ.มีมติเห็นชอบให้ GPSC รวมกิจการกับ GLOW แล้ว ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังจากที่ กกพ. มีมติรับทราบการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ SPP1 โดยปัจจุบัน GLOW ได้ดำเนินการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น SPP1 ให้แก่บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ เซอร์วิส (แหลมฉบัง) จำกัด (BPSLC) เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามสำหรับใบอนุญาตการประกอบกิจการพลังงานของ SPP1 จะยังคงประกอบกิจการได้ตามปกติ โดยที่จะไม่ต้องเปลี่ยนแปลงชื่อนิติบุคคลผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการพลังงานแต่อย่างใด” นางสาวนฤภัทร กล่าว

สำหรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นดังกล่าวส่งผลให้กลุ่ม BGRIM จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนร่วมทุนรวมทั้งหมดเป็น 1,335.36 เมกะวัตต์  (MW) และคิดเป็นสัดส่วนเพียง 2.45% ของกำลังผลิตไฟฟ้าทั้งประเทศ ถือเป็นสัดส่วนที่น้อยมากจนไม่มีผลกระทบต่อส่วนแบ่งการตลาดในการให้บริการพลังงานไฟฟ้าในเชิงภาพรวมของประเทศ

ทั้งนี้ กกพ. เชื่อมั่นว่าการพิจารณาและมีมติดังกล่าว ได้ยึดมั่นในการส่งเสริมและสนับสนุน แนวทางการค้าเสรีอย่างเป็นธรรม สร้างบรรยากาศที่ดีต่อการลงทุนทั้งภายในประเทศ และการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งผ่านการตรวจสอบความถูกต้องอย่างรอบคอบแล้วว่าไม่ขัดต่อกฎหมาย และไม่เข้าข่ายเป็นการผูกขาด หรือลดการแข่งขันในภาพรวมของการผลิตไฟฟ้าทั้งประเทศของผู้ผลิตไฟฟ้ารับอนุญาต

อนึ่ง GPSC มีแผนจะซื้อหุ้น GLOW ทั้งหมดภายใต้วงเงินรวมประมาณ 1.4 แสนล้านบาท โดยส่วนแรกจะเป็นการซื้อหุ้น 69.11% จาก Engie Global Development B.V. (Engie) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น GLOW สัดส่วน 69.11% วงเงินรวม 9.59 หมื่นล้านบาท หลังจากนั้นจะทำคำเสนอซื้อหุ้น GLOW ส่วนที่เหลือต่อไป ซึ่งเดิมคาดว่าจะแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2561

อย่างไรก็ตามกกพ.ไม่อนุมัติคำขอเพื่อรวมกิจการโดยการซื้อหุ้นส่วนใหญ่ใน GLOW เพราะเห็นว่าเป็นการลดการแข่งขันในพื้นที่ซึ่งขัดต่อกฎหมายของกกพ. แต่ต่อมาได้มีการผ่อนปรนหลังจากที่ GLOW ได้ยื่นเรื่องเพิ่มเพื่อขออนุญาตควบรวมกิจการเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง โดยกกพ.กำหนดเงื่อนไขให้ GLOW ขายกิจการ SPP1  ให้แล้วเสร็จก่อนจึงจะสามารถรวมกิจการกับ GPSC ได้เพื่อแก้ไขปัญหาลดการแข่งขันในพื้นที่