TQM บวก 3% โบรกฯคาดกำไรปีนี้โต 25% แตะ 500 ลบ. รับยอดขายพุ่ง หนุนรายได้เพิ่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM ณ เวลา 16.22 น. อยู่ที่ระดับ 30.50 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 2.52% สูงสุดที่ระดับ 31 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 28.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 96.23 ล้านบาท

ด้าน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (21 มี.ค.62) แนะนำ “ถือ” TQM ราคาเป้าหมาย 32 บาท/หุ้น โดยปรับคำแนะนำลงจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ” เนื่องจากราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นมาก (45% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน) ทำให้ ณ ปัจจุบัน TQM ซื้อขายที่ 2019Forward PER 19.6x และ 2561-63 PEG 1.0x ในขณะที่ระยะสั้น ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ที่ 505 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน) และปี 2563 ที่ 565 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน)

โดยได้รวมแฟนธุรกิจหลักที่ผู้บริหารได้เปิดเผยในงาน Opportunity Day วานนี้เอาไว้แล้ว เช่น การพัฒนาระบบ IT เพื่อเข้าสู่ยุค InsurTech, รวมถึงเพิ่มรายได้จากธุรกิจประกันชีวิต/สุขภาพ และ ธุรกิจ Financial Broker ที่จะเป็นนายหน้าหาลูกค้าให้กับลูกค้าให้กับผู้ประกอบการสินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลที่จะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 2/63 ซึ่งยังไม่ได้ใส่เข้าไปในประมาณการ ดังนั้นเราจึงคงราคาเป้าหมาย 32.00 บาท (อิง PER 19x) จากราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมาเร็วในระยะสั้น

ทั้งนี้ จากงาน Opportunity Day เมื่อวันที่ 20 มี.ค.62 ผู้บริหารได้กล่าวถึงแผนธุรกิจในปี 2562 ดังนี้

1) การพัฒนาระบบ IT เพื่อเข้าสู่ยุค InsurTech ทั้ง Big Data ที่จะวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ทางประกันที่ตรงความต้องการ, ChatBOT และ AI ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน,

2) พัฒนาระบบ Non-life Platform ซึ่งช่วยเพิ่มฐานรายได้จากธุรกิจประกันชีวิต ที่ ณ ปัจจุบันยังมีสัดส่วนรายได้ที่ต่ำเพียง 4% และ 3) ริเริ่มธุรกิจ Financial Broker ที่จะเป็นนายหน้าหาลูกค้าให้กับผู้ประกอบการสินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล โดยจะมีการแถลงธุรกิจในไตรมาส 2/62

ทั้งนี้ เชื่อว่าแผนงานข้างต้นนี้จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้า, รายได้ โดยเฉพาะธุรกิจประกันชีวิตที่มี Commission Rate ประมาณ 40% ซึ่งสูงกว่าประกันภัยรถยนต์ที่อยู่ที่ 18%, และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงรายได้จากประกันภัยรถยนต์เป็นหลัก ทั้งจากประกันสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ตามความร่วมมือกับวิรยะประกันภัย และ BDMS ในการนำเสนอขายประกันสุขภาพแบบ Exclusive ภายใต้โครงการอุ่นใจรักษ์ดีไลท์ และจากธุรกิจ Financial Broker เป็นต้น

อย่างไรก็ดี คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2562 ที่ 505 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน จากรายได้ที่ขยายตัวมากกว่า 15% ตามยอดขายรถยนต์ในประเทศปีก่อน และการเพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจประกันชีวิต ภายหลังที่มีการพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ และ Gross Profit Margin เพิ่มขึ้นที่ 49.5% ควบคู่ SG&A/Sale ลดลงที่ 28.3% จากการประหยัดจากขนาด และการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการดำเนินงาน

ขณะที่ ปรับลดน้ำหนักการลงทุนเป็น “ถือ” จากเดิม “ซื้อ” แต่คงราคาเป้าหมายที่ 32.00 บาท (อิง PER 19x) จากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และสะท้อนผลการดำเนินงานที่จะขยายตัวต่อเนื่อง หนุนโดยยอดขายรถยนต์ในปี 2561 ที่ขยายตัวมากกว่า 20%

อย่างไรก็ตาม ยังชอบ TQM จากการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนายหน้าประกัน ทั้งผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และการบริการที่ครบวงจร และมองว่าบริษัทยังมี Upside เพิ่มขึ้นในอนาคต จากธุรกิจ Finance Broker ที่จะเปิดตัวในไตรมาส 2/62 คาดจะอยู่ในรูปแบบการแนะนำลูกค้าจากฐานลูกค้าที่มีอยู่ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล และรับรู้รายได้เป็น Referral Fee ซึ่งมองว่าจะส่งผลบวกต่อกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น 1.6% หรือราคาเป้าหมายปี 2563 ที่ 36.75 บาท แต่ ณ ปัจจุบันเรายังไม่เห็นความชัดเจนของแผนงานนี้ จึงยังไม่รวมผลกระทบนี้ในประมาณการ

ขณะที่ ประมาณการผลกระทบจากธุรกิจใหม่ ในกรณีรายได้ค่าแนะนำลูกค้าอยู่ที่ 200 บาท/คน และสัดส่วนลูกค้าที่บอกต่อสำเร็จที่ 10% จะส่งผลต่อราคาเป้าหมายที่เพิ่มขึ้น 1.01 บาท