คลังรีดปันผล “วายุภักษ์” เพิ่มทุน TMB! ระบุดีลควบ “ธนชาต” เสร็จภายในมิ.ย. 62

คลังรีดปันผล “วายุภักษ์” เพิ่มทุน TMB! ระบุดีลควบ “ธนชาต” เสร็จภายในมิ.ย. 62


แหล่งข่าวจากที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ไอเอ็นจีกรุ๊ป และกลุ่มธนชาต จะใส่เงินเพิ่มทุนธนาคารทหารไทย หรือ TMB ในเดือน มิ.ย.นี้ โดยขณะนี้คลังอยู่ระหว่างการเตรียมเงินทุนสำหรับซื้อหุ้นเพิ่มทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท

“ผู้ถือหุ้นใหญ่แบงก์ทหารไทยและคลัง อยู่ระหว่างเตรียมเงินสำหรับเพิ่มทุน หลังดิวดิลิเจนซ์เสร็จภายในเดือน พ.ค.นี้” แหล่งข่าว กล่าว

โดยคลังจะนำเงินปันผลจากกองทุนวายุภักษ์มาเพิ่มทุน 1 หมื่นล้านบาท และหากไม่เพียงพอจะใช้แผนสองคือ ขายหุ้นบางส่วนใน TMB (คลังถืออยู่ 26%) ให้กับกองทุนวายุภักษ์ และนำเงินดังกล่าวมาใส่เพิ่มทุนใน TMB หลังจากที่เมื่อวานนี้คลังได้เสนอแก้ไขร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจำหน่ายหุ้นและซื้อหุ้นของกระทรวงการคลังฉบับใหม่ ให้กับ ครม.รับทราบ เพื่อปรับปรุงและรองรับการซื้อขายหุ้นของคลังในอนาคต โดยเฉพาะหุ้น TMB โดยไม่จำเป็นต้องขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีอีกต่อไป และเงินนั้นไม่ต้องนำส่งคลัง

“เดิมการขายหุ้นคลังบางส่วนจะต้องเสนอขอความเห็นชอบจาก ครม.ก่อน แต่เมื่อแก้ไขปรับปรุงระเบียบนี้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องขอ ครม. ให้เป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังตัดสินใจ” แหล่งข่าว กล่าว

แหล่งข่าวกล่าวย้ำว่า ระเบียบจำหน่ายหุ้นและซื้อหุ้นของกระทรวงการคลังนี้ ไม่ต้องเสนอ ครม.ในการนำเงินปันผลวายุภักษ์ไปใช้ซื้อหุ้นเพิ่มทุน TMB ซึ่งมีการกำหนดกรอบวิธีการซื้อขายหุ้นของคลังไว้ชัดเจน

นอกจากนี้ คลังยังมีหุ้นอีก 19 ตัว ที่ได้เปิดประมูลไปก่อนหน้านี้ ที่ได้ขออนุมัติจาก ครม.ไปแล้ว ซึ่งเงินส่วนนี้ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้เข้าคลัง เมื่อระเบียบใหม่ออกมาแล้วเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม วานนี้ (9 เม.ย.) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจำหน่ายหุ้นและซื้อหุ้นของกระทรวงการคลัง พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้กระทรวงการคลังเร่งรัดดำเนินการเสนอกฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 เพื่อให้มีผลใช้บังคับภายในระยะเวลาที่คลังกำหนด

ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง รายงานว่า

1.เดิมคลังได้มีระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจำหน่ายหุ้นและซื้อหุ้นของส่วนราชการ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 24 วรรคห้า แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติมใช้บังคับ ซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจำหน่ายหุ้นและซื้อหุ้นในนิติบุคคล โดยจะต้องเป็นการจำหน่ายหุ้นในนิติบุคคลเพื่อไปซื้อหุ้นในนิติบุคคลอื่น

2.โดยที่ได้มีพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ใช้บังคับ ซึ่งมาตรา 34 วรรคสี่ (4) ประกอบกับวรรคห้า บัญญัติให้เมื่อมีเหตุผลอันสมควร รัฐมนตรีจะอนุญาตให้หน่วยงานของรัฐที่ได้รับเงินจากการจำหน่ายหุ้นในนิติบุคคลเพื่อนำไปซื้อหุ้นในนิติบุคคลอื่น สามารถนำเงินไปใช้จ่ายได้โดยไม่ต้องนำส่งคลังก็ได้ ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนดโดยได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี

ประกอบกับมาตรา 86 บัญญัติให้บรรดาระเบียบที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้มีผลใช้บังคับต่อไปได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้ จนกว่าจะมีการออกระเบียบตามพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ซึ่งการจะออกระเบียบดังกล่าวต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จเพื่อให้มีผลใช้บังคับภายในหนึ่งปี นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ (ครบกำหนดระยะเวลาหนึ่งปีในวันที่ 20 เมษายน 2562) ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน

ด้าน ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทได้รับการแทนที่ด้วยเครดิตพินิจ (CreditAlert) แนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ” เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2562

เนื่องจากการลงนามในบันทึกข้อตกลงแบบไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ING Groep N.V. (ING) และ Bank of Nova Scotia Ltd. (BNS) เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 เพื่อดำเนินการรวมกิจการระหว่างธนาคารทหารไทยและธนาคารธนชาต

ทั้งนี้ เครดิตพินิจแนวโน้ม “Negative” สื่อความว่าอันดับเครดิตของบริษัทอาจไม่เปลี่ยนแปลงหรืออาจได้รับการปรับลดลงจากในระดับปัจจุบัน เมื่อทริสเรทติ้งทำการทบทวนเครดิตพินิจในครั้งต่อไป

Back to top button