THANI เด้ง 5% โบรกฯคาดกำไรไตรมาส 1/62 โตแกร่ง 30% รับรายได้ดอกเบี้ยพุ่ง
THANI เด้ง 5% โบรกฯคาดกำไรไตรมาส 1/62 โตแกร่ง 30% รับรายได้ดอกเบี้ยพุ่ง โดย ณ เวลา 16.29 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 6.10 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 5.17% สูงสุดที่ระดับ 6.15 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 171.60 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI ณ เวลา 16.29 น. อยู่ที่ระดับ 6.10 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 5.17% สูงสุดที่ระดับ 6.15 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 171.60 ล้านบาท
ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (10 เม.ย.) แนะนำ “ซื้อ” THANI ราคาเป้าหมาย 8.10 บาท/หุ้น โดยคาดการณ์กำไรไตรมาส 1/62 เป็น Record high ที่ 471 ลบ. เพิ่มขึ้น 3.6% จากไตรมาสก่อน, เพิ่มขึ้น 29.7% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน จากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น 1.3% จากไตรมาสก่อน, เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน สินเชื่อที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2%YTD และคาดการณ์ credit cost ที่ลดลง
โดยคาดว่ากำไรสุทธิในช่วงที่เหลือของปีจะดีขึ้นตามลำดับ โดยไตรมาส 2/62 สินเชื่อมีแนวโน้มความต้องการดีกว่าไตรมาส 1/62 ที่ชะลอจากปัจจัยการเมือง และครึ่งปีหลัง 2562 คาดการฟื้นตัวของยอดขายรถเชิงพาณิชย์ที่ชัดเจนขึ้นตามฤดูกาลและสำรองฯที่ทะยอยลดลง เราคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2562 ที่ 1,820 ลบ. เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน คงราคาเหมาะสมปี 2562 ที่ 8.10 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”
ขณะที่ยอดขายรถบรรทุก 3 เดือนแรก 2562 ลดลง 4% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน โดยยอดขายดีที่สุดในเดือนม.ค. ที่ราว 3.5 พันคัน แต่สะดุดในเดือนก.พ. และมี.ค. เหลือ 3 พันคันต่อเดือน คาดว่าน่าจะเกิดจากการชะลอตัวของการลงทุนก่อนการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามสำหรับ THANI ผู้บริหารเปิดเผยว่ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่ในไตรมาส 1/62 ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่เฉลี่ย > 2 พันลบ.ต่อเดือนจากกลุ่มรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ และรถมือสอง
อีกทั้งยังระบุว่าแนวโน้มยอดขายรถบรรทุกในไตรมาส 2/62 น่าจะเห็นกการฟื้นตัวเนื่องจากเห็นความต้องการใช้สินเชื่อยังเหลืออยู่จำนวนมาก ในความเห็นของเรา เราคาดว่าน่าจะเห็นการเติบโตของสินเชื่อได้ชัดเจนขึ้นในครึ่งปีหลัง 2562 และคงคาดการณ์ยอดขายรถบรรทุกในปี 2562 ที่ 5-10% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน โดยคาดหวังการขนส่งระหว่างจังหวัดและชายแดนที่คึกคักขึ้นตามภาคการลงทุนและการก่อสร้างภายหลังภาพการเมืองที่ชัดเจนขึ้น
ทั้งนี้ คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 1/62 ที่ 471 ลบ. เพิ่มขึ้น 3.6% จากไตรมาสก่อน, เพิ่มขึ้น 29.7% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.3% จากไตรมาสก่อน, เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ตามการเติบโตของสินเชื่อที่คาดว่าจะ เพิ่มขึ้น 2%YTD คาดการณ์ Loan spread ที่ 5% ลดลงจาก 5.24% ในไตรมาสก่อนหน้า จากแนวโน้มต้นทุนทางการเงิน (CoF) ที่จะสูงขึ้นตลอดทั้งปี
ขณะที่ คาดการณ์ credit cost ที่ 0.75% ลดลงจาก 0.79% ในไตรมาสก่อน และ 1.20% ในงวดเดียวกันของปีก่อนเนื่องจาก General provision ที่เริ่มมีความจำเป็นลดลง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสำรองฯคาดว่าจะลดลง 10% จากไตรมาสก่อน, ลดลง 33% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน แนวโน้มของ General provision จะลดลงในไตรมาสที่เหลือ และมีแนวโน้มกลับรายการสำรองฯถ้าสำรองฯที่มีอยู่อาจมากเกินความจำเป็น
ขณะที่คาดการณ์ Cost to income ratio ที่ 15% ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน ซึ่งน่าจะเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม สะท้อนประสิทธิภาพของบุคลากรและสาขา ในส่วนของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเกษียณอายุพนักงานจะเป็นจำนวนไม่มากนัก (ราวๆ 1 ลบ.)
อย่างไรก็ดี คงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2562 ที่ 1,820 ลบ. เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน การเติบโตส่วนใหญ่เกิดจากค่าใช้จ่ายสำรองฯที่ลดลง และรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น เราคาดการณ์สินเชื่อเพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน, Loan spread ที่ 4.8% VS 5.1% ในปีก่อน, Cost to income ratio ที่ 18% VS 17% ในปีก่อน และ credit cost ที่ 0.65%
คงราคาเหมาะสมปี 2562 ที่ 8.10 บาท อิง Justified PER 17 เท่า (Ke11.4%,g8%) และ 2562 Prospective EPS ที่ 0.48 บาท เทียบกับราคาล่าสุด มี Upside อยู่ราว 40% โดยเชื่อว่ามีแรงกดดันจากความไม่มั่นใจต่ออันดับเครดิตหากมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น (TBANK ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น THANI ราว 65% อยู่ในระหว่างการเตรียมการควบรวมกับ TMB และน่าจะโอนหุ้น THANI ให้กับ TCAP และ BNS ถือตามสัดส่วน ในกรณีนี้เราเชื่อว่าอันดับเครดิตไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะ BNS ถือเป็นธนาคารที่มีอันดับเครดิตที่แข็งแกร่งธนาคารหนึ่ง) จึงคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อสะสม