BEC ถกบอร์ด คืนไม่คืนไลเซนส์ “ทีวีดิจิทัล?” 10 พ.ค. นี้ รู้เรื่อง!!

BEC ถกบอร์ด คืนไม่คืนไลเซนส์ “ทีวีดิจิทัล?” 10 พ.ค. นี้ รู้เรื่อง!!


นายสมประสงค์ บุญยะชัย กรรมการ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC เปิดเผยกับ ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2562 ที่ผ่านมา มีการพิจารณาเรื่องคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ และคาดว่าจะมีความชัดเจนก่อนวันที่ 10 พ.ค. 2562 หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งตามมาตรา 44 (ม.44) ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล โดยเปิดโอกาสให้สามารถคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัลได้ แต่ต้องแจ้งสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ภายในวันที่ 10 พ.ค. 2562

ขณะที่แหล่งข่าวจากบอร์ด BEC อีกราย เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนออกมาว่าบริษัทจะคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัลหรือไม่คืน เนื่องจากมีรายละเอียดและแนวทางที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม ซึ่งต้องรอฝ่ายบริหารจัดทำรายละเอียดให้เสร็จเรียบร้อยก่อน โดยจะนำเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ดพิจารณาในครั้งต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 10 พ.ค. 2562

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า BEC จะมีการประชุมบอร์ด 2 วัน คือ วันที่ 19 เม.ย. 2562 และวันที่ 10 พ.ค. 2562 ซึ่งคาดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะพิจารณาในวันที่ 19 เม.ย. 2562 เพราะหากรอไปถึงวันที่ 10 พ.ค. 2562 จะไม่ทันการ

โดยปัจจุบัน BEC มีใบอนุญาตทีวีดิจิทัลอยู่ 3 ช่อง คือช่อง 33 HD ช่อง 23 SD และช่อง 13 Family แต่คาดว่าหากมีการประกาศคืนช่อง มีโอกาสจะคืน 1-2 ช่อง คือช่อง 23 SD และช่อง 13 Family ส่วนช่อง 33 HD น่าจะไม่คืนอยู่แล้ว เพราะเป็นช่องหลัก

ทั้งนี้ แม้จะเป็นข่าวดีในเรื่องการลดภาระ โดยในปี 2561 เป็นครั้งแรกที่ประสบภาวะขาดทุนถึง 330 ล้านบาท แต่ราคาหุ้นได้ปรับขึ้นมาตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) ถึง 84% คาดว่าได้สะท้อนข่าวดีไประดับหนึ่งแล้ว การเข้าเก็งกำไรจึงควรระมัดระวัง โดยตามค่าเฉลี่ยของ IAA Consensus คาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 2562 เป็น 0.08 บาท เพิ่มขึ้น 216% และ P/E สูงมากเป็น 107.9 เท่า ราคาพื้นฐานเป็น 6.35 บาท ถือว่าราคาหุ้นปัจจุบันปรับขึ้นมามากแล้ว ฝ่ายวิจัยไม่ได้ทำการวิเคราะห์หลักทรัพย์นี้ (Not Rated)

สำหรับมาตรการแก้ไขปัญหากิจการโทรทัศน์นั้น ผู้ประกอบการรายใดมีความประสงค์คืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ให้แจ้ง กสทช.ภายในวันที่ 10 พ.ค. 2562 และ กสทช.จะพิจารณาค่าชดเชยให้ผู้ประกอบการ โดย กสทช.จะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อเสนอความเห็นเกี่ยวกับการกำหนดวิธีการและเงื่อนไขการชดเชยกรณีคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ซึ่งเบื้องต้นจะได้รับเงินชดเชยน้อยกว่าที่ผู้ประกอบการจ่ายค่าใบอนุญาตฯ มาก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลที่ยังค้างชำระค่าประมูลงวดที่ 4 อีกที่เหลือ 50% (งวดที่ 4.5) จำนวน 17 ช่อง รวมเป็นเงิน 3,215.20 ล้านบาท จะต้องชำระภายในวันที่ 8 ส.ค. 2562 หากยังไม่จ่ายภายในวันดังกล่าว ให้จ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 7.5% ซึ่งจะนำเงินดังกล่าวมาจ่ายให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล 3 ช่อง ที่ได้จ่ายค่าใบอนุญาตงวดที่ 5 มาแล้ว ได้แก่ ช่อง 7 จำนวน 372 ล้านบาท เวิร์คพอยท์ จำนวน 395 ล้านบาท และสปริงนิวส์ จำนวน 219.60 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 986.60 ล้านบาท จากนั้นจะเหลือเงิน 2,228.60 ล้านบาท เพื่อนำส่งเป็นรายได้เข้ารัฐต่อไป

ส่วนผู้ประกอบการรายใดไม่มีความประสงค์คืนใบอนุญาตฯ จะได้รับยกเว้นค่าใบอนุญาตฯ งวดที่ 5 และงวดที่ 6 รวมเป็นเงิน 13,622.40 ล้านบาท โดยเงินที่จะนำมาชดเชยมาจากการจัดสรรคลื่น 700 MHz หลังจากที่ กสทช.เรียกคืนคลื่นความถี่ 700 MHz ช่วง 694-790 MHz มาจัดสรรสำหรับกิจการโทรคมนาคม รวมทั้ง กสทช.จะจ่ายชดเชยโดยตรงให้กับผู้ให้บริการ MUX เต็มจำนวน 100% เป็นระยะเวลา 9 ปี 6 เดือน รวมเป็นเงิน 18,775.80 ล้านบาท

Back to top button