PPS ส่งซิกผลงานไตรมาส 2/62 โตต่อ หนุนทั้งปีกวาดรายได้ตามเป้า 10%
PPS ส่งซิกผลงานไตรมาส 2/62 โตต่อ หนุนทั้งปีกวาดรายได้ตามเป้า 10%
ดร.พงศ์ธร ธาราไชย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ PPS เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/62 บริษัทมีรายได้รวม 130.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 97.91 ล้านบาท จำนวน 32.50 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 33.19 % และมีกำไรสุทธิ 11.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8.73 ล้านบาท จำนวน 3.16 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 36.20%
ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้ของโครงการที่เพิ่มเข้ามาในปลายปีที่แล้ว และโครงการอื่นๆ ของภาคเอกชน ที่รับรู้รายได้มาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้เพิ่มเติมจาก PPS Oneworks ในงานจัดทำเอกสารเสนอโครงการของงานสนามบินอู่ตะเภา
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติจัดตั้งบริษัท โปรเจคท์ วัน พร็อพเพอตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัดด้วยความคิดที่จะนำความรู้และประสบการณ์จากการทำงานด้านการพัฒนาพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ให้แก่เจ้าของโครงการ มาร่วมกับเจ้าของโครงการหรือผู้ลงทุนในการพัฒนาพื้นที่โครงการที่บริษัทเล็งเห็นศักยภาพเพื่อเพิ่มมูลค่าโครงการให้สูงขึ้นและใช้เงินลงทุนที่เหมาะสมต่อขนาดธุรกิจของบริษัท
ขณะเดียวกัน บริษัทได้จำหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดในหุ้นสามัญของบริษัท สวอน แอนด์ แมคคลาเรน (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วม จำนวน 244,998 หุ้น ในราคาหุ้นละ 5.50 บาท หรือคิดเป็นราคาขายรวม 1.34 ล้านบาท เพื่อลดความเสี่ยง เนื่องจากบริษัทดังกล่าวมีผลประกอบการและแนวโน้มธุรกิจไม่เป็นไปตามที่คาดหมายไว้ โดยเงินที่จะได้รับจากการขายหุ้นในส่วนนี้ จะนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
สำหรับแนวโน้มธุรกิจของบริษัทในช่วงไตรมาส 2 จะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากงานที่อยู่ระหว่างดำเนินการอาทิ โครงการสยามสินธร, Block H สยามสแควร์, The mall 2 รามคำแหง, โรงแรม Holiday Inn Samui, Soontareeya ขณะที่ภาคเอกชนมีการลงทุนในบางกลุ่มธุรกิจ อาทิ โรงแรม ที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน กลุ่มค้าปลีก ซึ่งบริษัทสามารถรับงานได้บางส่วน
อีกทั้งมีการรับงานจัดเก็บข้อมูลวัสดุให้กับบริษัทวัสดุก่อสร้างด้วยเทคโนโลยี BIM (Building Information Modeling) ถือเป็นงานจากกลุ่มธุรกิจใหม่ที่จะเข้ามาเสริมศักยภาพในการรับงานให้บริษัทมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน อีกทั้งเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าร่วมประมูลงานในโครงการเมกะโปรเจกต์และงานกลุ่ม EEC ปัจจุบันบริษัทมี Backlog (ณ เม.ย.62) อยู่ที่ 300 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้จำนวน 150 ล้านบาทและหากการดำเนินงานเป็นไปตามแผนที่วางไว้จะส่งผลให้รายได้ในปี้นี้เติบโตตามเป้าหมาย 10% หรือ 425 ล้านบาท