ROJNA พุ่ง 5% ลุ้นผลงานปีนี้โตเด่น! เล็งใช้เงินหุ้นกู้ขยายธุรกิจอสังหาฯ-เสริมสภาพคล่อง
ROJNA พุ่ง 5% ลุ้นผลงานปีนี้โตเด่น! เล็งใช้เงินหุ้นกู้ขยายธุรกิจอสังหาฯ-เสริมสภาพคล่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) หรือ ROJNA ล่าสุด ณ เวลา 12.12 น. อยู่ที่ 5.50 บาท ปรับตัวขึ้น 0.25 บาท หรือ 4.76% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 132.29 ล้านบาท
ทั้งนี้ราคาหุ้น ROJNA วันนี้ขึ้นไปทำราคาสูงสุดที่ 5.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขายที่มีเข้ามาอย่างหนาแน่นถึง 132 ล้านบาท จากมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยเพียงวันละไม่เกิน 20 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท ครั้งที่ 2/2562 มูลค่าไม่เกิน 500 ล้านบาท อายุ 4 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2566 มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.25% ต่อปี เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน ในวันที่ 12 มิ.ย.62 โดยมีธนาคารธนชาต เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้
โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ไปใช้ลงทุนในโครงการที่เกี่ยวกับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท และ/หรือ ของบริษัทในเครือของผู้ออกหุ้นกู้ประมาณ 500 ล้านบาท โดยคาดว่าจะใช้เงินทั้งหมดภายในเดือน ธ.ค.62
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการเตรียมการลงทุนดังกล่าว ผู้ออกหุ้นกู้อาจนำเงินที่ได้บางส่วนไปชำระคืนหนี้สินระยะสั้นเพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่อง
อนึ่ง ไตรมาส 1/62 ที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิสูงถึง 411.58 ล้านบาท ปรับตัวขึ้น 170% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ขณะที่กำไรไตรมาส 1/62 คิดเป็น 61% ของกำไรปี 2561 ซึ่งทั้งปีมีกำไรสุทธิ 671.21 ล้านบาท จึงคาดว่าในปี 2562 บริษัทจะมีกำไรสุทธิค่อนข้างโดดเด่นเมื่อเทียบกับปี 2561
ด้าน บล.ทิสโก้ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6.80 บาท/หุ้น โดย ROJNA รายงานกำไรจากการดำเนินงาน 140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันเมื่อปก่อน และ 50% จากไตรมาสก่อน และมีรายการพิเศษคือ กำไรจากเงินลงทุน 272 ล้านบาท ที่ยังไม่รับรู้, เงินชดเชยจาก EGAT 27 ล้านบาท ทำให้ผลประกอบการเพิ่มขึ้นเป็น 412 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 170% จากปก่อน และ 65% จากไตรมาสก่อนชดเชยผลขาดทุนจากค่าเงิน 27 ล้านบาทในไตรมาส 1/62
ทั้งนี้ รายได้ 3.2 พันล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ 402 ล้านบาท จากการขายที่ดินเพิ่มขึ้น 154% จากปีก่อน และรายได้จากการขายไฟที่เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน และ 2% จากไตรมาสก่อนเป็น 2.7 พันล้านบาท แต่อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเป็น 21.2% จากเดิม 23.8% จากปีก่อน เนื่องจากต้นทุนค่าไฟที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน แต่ลดลง 18% จากไตรมาสก่อน สุดท้าย SG&A ต่อยอดขายลดลงเป็น 4.5% จากเดิมที่ 5-6% จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น และแผนในการลดต้นทุน โดยแนะนำให้ “ซื้อ” โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 6.80 บาท (SOTP)