UAC ปลื้มโครงการ “แม่แตง” คว้ารางวัลโรงไฟฟ้าดีเด่นปี 62 ย้ำเป้ารายได้โต 2.7 พันลบ.

UAC ปลื้มโครงการ “แม่แตง” คว้ารางวัลโรงไฟฟ้าดีเด่นปี 62 ย้ำเป้ารายได้โต 2.7 พันลบ.


นายชัชพล ประสพโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับรางวัลดีเด่นด้านพลังงานทดแทนประเภทโครงการที่เชื่อมโยงกับระบบสายส่งไฟฟ้า (On-Grid)  ในโครงการโรงงานผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพจากพืชพลังงานแม่แตง  จังหวัดเชียงใหม่  จากการประกวด Thailand Energy Awards 2019 ของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน

โดยรางวัล Thailand Energy Awards พิจารณาจากโครงการเป็นตัวอย่างที่ดีด้านส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานทดแทนและสร้างความมั่นคงให้กับพลังงานของประเทศ  คำนึงถึงประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมเป็นสำคัญ และสามารถนำโครงการไปต่อยอดพัฒนาเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าต่อระบบเศรษฐกิจในระยะยาว

ทั้งนี้ โรงงานผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพจากพืชพลังงานแม่แตง  ได้เริ่มโครงการเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2558 และเริ่มเดินระบบจนเข้าสู่สภาวะเสถียรและดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลา 3 ปี กำลังผลิต 1.483  เมกะวัตต์ ในปี 2561 โครงการใช้วัตถุดิบประมาณ 28,000 ตัน สร้างรายได้ให้แก่โรงไฟฟ้าฯ มากกว่า 50 ล้านบาทต่อปี เทียบเท่าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณปีละ 4,712 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ ดังนั้นโครงการโรงงานผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพจากพืชพลังงานจึงสามารถทำร่วมกับชุมชนได้ทุกพื้นที่ในประเทศ

นายชัชพล กล่าวอีกว่า บริษัทฯมีแนวทางพัฒนาที่จะผลิตพลังงานทดแทน เพื่อลดการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ โดยสนับสนุนปลูกหญ้าเนเปียร์ ซึ่งเป็นพืชพลังงานที่โตเร็ว ให้ผลผลิตต่อไร่สูง ทนแล้งให้ผลผลิตตลอดปี ทั้งนี้บริษัทฯจะซื้อวัตถุดิบจากเกษตรกรในพื้นที่ปีละกว่า 15 ล้านบาท เป็นการช่วยให้เงินหมุนเวียนในชุมชน และบริษัทฯยังรับต้นข้าวโพด ซึ่งเป็นพืชพลังงานอีกชนิดหนึ่ง ที่สามารถนำมาผลิตก๊าซชีวภาพได้ และยังมีส่วนช่วยลดการเผาไหม้ที่ทำให้เกิดหมอกควันพิษ หรือ PM 2.5 ในพื้นที่อีกด้วย

“UAC ภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัล Thailand Energy Awards ในครั้งนี้ ตลอดระยะเวลาของการดำเนินงาน  บริษัทฯมุ่งมั่นสร้างความเป็นเลิศในการปฏิบัติงานทุกๆ ด้าน  รวมถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมและจัดหาพืชพลังงานมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง โดยโรงงานที่แม่แตงเป็นต้นแบบของการสร้างโรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่ใช้วัตถุดิบการเกษตรในพื้นที่ ส่งเสริมให้มีเงินหมุนเวียนในชุมชน สร้างความมั่นคงด้านพลังงานและยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกร” นายชัชพล กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาพรวมการเติบโตทางธุรกิจ กรรมการผู้จัดการ ยังได้กล่าวย้ำว่า บริษัทฯ ตั้ง เป้ารายได้วางไว้  2,700 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบจากปีก่อน ขณะที่ EBITDA คาดว่าไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท และมั่นใจว่า อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ในปี 2562 จะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.2 เท่า จาก ณ สิ้นไตรมาส 1/2562 มีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 1.35 เท่า ซึ่งสะท้อนความแข็งแกร่งทางการเงิน และเชื่อมั่นว่ายังเป็นการเพิ่มโอกาสการลงทุนต่อเนื่องในอนาคต

Back to top button