โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” SINGER จับตาผลงานครึ่งปีหลังโตแจ่ม หนุนธุรกิจพลิกกำไรในรอบ 3 ปี!

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลและบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้น บริษัท ซิงเกอร์ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER โดยมีนักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กำหนดคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเหมาะสม 10.40 บาท อัพไซด์ XX% จากราคาปิดวานนี้ (4 ก.ค.62) ที่ระดับ 8.15 บาท ลดลง 0.35 บาท หรือ 4.12% สูงสุดที่ระดับ 8.55 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 7.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 53.11 ล้านบาท

 

ด้านนักวิเคราะห์ประเมินว่า SINGER อยู่ในช่วงปรับโครงสร้างธุรกิจเช่าซื้อและพัฒนาพอร์ตสินเชื่อ และเตรียมเข้าสู่ช่วงการเติบโต (Growth stage) พร้อมคาดว่ากำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีหลัง (H2/62) จะเติบโตเด่น ทั้งธุรกิจเช่าซื้อที่เข้าสู่ High season ในไตรมาส 2/62 หนุนกำไรหลักเติบโตจากช่วงไตรมาสก่อนหน้า (ไตรมาส 1/62) ก่อนสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจะกลับมาขยายตัวในครึ่งปีหลัง บนพัฒนาการบวกของธุรกิจที่แข็งแรงขึ้น เริ่มพลิกกำไร 4 ไตรมาสติดต่อกัน

ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างธุรกิจเช่าซื้อ (HP) กว่า 2 ปีได้เสร็จสิ้น หลังการบันทึกสำรองก้อนใหญ่ในไตรมาส 1/61 พร้อมกับปรับการจัดการด้วย Farmer model ทั้งคัดกรองลูกหนี้และการจัดเก็บเงินผ่าน Mobile Banking อย่างเป็นระบบ เพื่ออุดรูรั่วของสินเชื่อที่ไม่มีคุณภาพ ทำให้แนวโน้มคุณภาพสินเชื่อจะดีขึ้นกว่าเดิมเห็นได้จาก NPL จากจุดสูงสุด 25% ลงมาที่ 20% ณ สิ้นปี 61

อย่างไรก็ตาม มองว่า SINGER พร้อมจะพาธุรกิจกลับมาเติบโตอีกครั้งผ่านการขยายแฟรนไชน์กว่า 900 สาขาทั่วประเทศ และ GPM ที่ขยายตัวมา 4 ไตรมาสติดจาก 30.7% เป็น 44.8% ตามสัดส่วนสินค้าที่อัตรากำไรสูงเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทกำลังสร้างการเติบโตรอบใหม่ด้วยธุรกิจจำนำทะเบียนรถ (รถทำเงิน) ตั้งแต่ พ.ค.60 โดยเน้นกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลาง-เล็ก ที่ต้องการสภาพคล่องระยะสั้น ด้วยหลักค้ำประกัน เช่น รถกระบะ, รถบรรทุก ฯลฯ โดยมองเป็นบวกต่อโอกาสในตลาดที่ใหญ่และความเสี่ยง (NPL) ต่ำกว่าเดิม สะท้อนบนอัตรากำไรที่สูงขึ้นด้วยเวลา 2 ปี พอร์ตขยายตัวถึง 269% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 1,263 ล้านบาท (36% ของพอร์ตรวม)

โดยหลังการเพิ่มทุนใน เม.ย.62 ที่ผ่านมา ได้ช่วยปลดล็อกข้อจำกัดด้านเงินทุน ทำให้สินเชื่อจะกลับมาเติบโตด้วยอัตราเร่ง +20% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า หนุนกำไรขยายตัวแบบไตรมาสต่อไตรมาสนับจากนี้ พร้อมคาดกำไรสุทธิปีนี้ 167 ล้านบาท พลิกมีกำไรในรอบ 3 ปี