โบรกฯ ชู PLANB ผู้นำกลุ่ม! ปรับเป้าแตะ 9.60 บ. จับตาผลงานโตไม่ยั้ง

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์หุ้น บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB หลังราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง โดยวานนี้ (8 ก.ค.) ราคาหุ้นปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 8.20 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 3.14% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 408.66 ล้านบาท ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 17 ก.พ.2558 มีราคา IPO อยู่ที่ 2 บาท/หุ้น 

โดย นักวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น PLANB ปรับราคาเป้าหมายเป็นปี 2563 ที่ 9.60 บาท/หุ้น (เดิมราคาเป้าหมายปี 2562 ที่ 8.30 บาท) อิง DCF (WACC 9.0%, TG 3.6%) เทียบเท่า PER ที่ 37.3 เท่า โดยมองว่าปี 2563 เป็นปีทีดีต่อเนื่องของ PLANB เป็นปีที่ก้าวสู่วัฏจักรการเติบโตรอบใหม่ คาดว่าจะได้เห็น Synergy ที่ชัดเจนของ PLANB และ VGI

ทั้งนี้ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ชอบ PLANB จากความเป็นผู้นำตลาดของ Digital OOH media มองว่า OOH media ยังมีโอกาสขยายตัวอีกมาก อีกทั้ง Core business ของ PLANB ยังคงเติบโตต่อเนื่อง จากแผนเข้าร่วมประมูลสื่อ OOH ทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมองว่า PLANB ยังเติบโตได้อีกมาก ทั้งจากการร่วมมือกับ VGI ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการ Capture เม็ดเงินโฆษณาทั้งในไทยและต่างประเทศ และมี Upside จาก M & A

สำหรับแนวโน้มกำไรสุทธิครึ่งปีหลังปี 2562 เติบโตโดดเด่น 35% เมื่อเทียบจากปีก่อน และโต 38% เมื่อเทียบจากครึ่งปีแรกปี 2562 จาก 1) รับรู้รายได้จาก Synergy กับ VGI ผ่านการขาย Bundling package คาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 150 ล้านบาท โดยจะเริ่มรับรู้รายได้จาก Bangkok takeover และ bundling package อื่นๆ ตั้งแต่เดือน ก.ค. โดย PLANB ตั้งเป้ารายได้ที่ 200 ล้านบาท หากได้ตามบริษัทฯ คาดจะเป็น Upside ต่อประมาณการของบล.เคทีบี (ประเทศไทย)

รวมทั้ง 2) ได้ประโยชน์เม็ดเงินโฆษณากลุ่ม OOH ที่จะขยายตัวต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังปี 2562 เนื่องจากผู้ประกอบการชะลอการใช้งบโฆษณาในช่วงครึ่งปีแรกปี 2562 เพื่อรอความชัดเจนทางการเมือง และมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เรามองว่าการขยาย Media capacity อย่างต่อเนื่องของ PLANB จะช่วยให้ PLANB สามารถ capture เม็ดเงินโฆษณาที่ฟื้นตัวใน 2H19

พร้อมทั้ง 3) GPM ขยายตัวจาก Utilization rate ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 78 – 79% จาก High Season และการขาย Bundling package with VGI และ 4) รายได้จาก Engagement marketing ทั้ง Sport & Music Marketing เติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2562 จะอยู่ที่ 817 ล้านบาท (โต 27% เมื่อเทียบจากปีก่อน)

ส่วน นักวิเคราะห์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น PLANB ประเมินราคาเป้าหมาย 8.3 บาท/หุ้น โดยคาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะยังคง เติบโตได้ในอัตราการเติบโตเฉลี่ย 25% CAGR ในช่วงปี 2562-2563 ตามแรงหนุนจากรายได้สื่อที่ยังเติบโตขึ้นต่อเนื่องตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะสื่อ ดิจิตอล ส่วนการเข้ามาร่วมถือหุ้นของ VGI นั้นเรามองว่าระยะกลาง – ยาว จะช่วย ให้บริษัทมีอำนาจต่อรองทางการค้าซึ่งจะช่วยลดต้นทุนเอเจนซี่ได้มากขึ้นรวมถึงอาจมี การแชร์กำลังการผลิตสื่อและพัฒนาสื่อใหม่ๆรวมกัน

ด้าน นักวิเคราะห์ บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” จากความเป็นผู้นำของกลุ่ม OOH media หลังร่วมเป็นพันธมิตรกับ VGI จากแนวโน้มกำไรเติบโตดีตามแผนขยายป้ายโฆษณาทั้งส่วนของป้ายรถเมล์ในกรุงเทพฯ และภายในสนามบินสุวรรณภูมิ

ส่วนแนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 2/62 จะสามารถทำสถิติสูงใหม่ได้ที่ 193 ล้านบาท ขยายตัว  38.7% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และเติบโต 26.5% เมื่อเทียบจากปีก่อน จากการปรับขึ้นของ Utilization rate จากไตรมาสก่อนที่ระดับ 66.5% มาเป็น 75% รวมถึงการขยายตัวของ Media capacity ซึ่งกดดัน GPM เล็กน้อยเนื่องจากทำให้ Fixed cost ปรับสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม GPM ยังเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบจากไตรมาส แต่หดตัวเมื่อเทียบจากปีก่อน เพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ยังรับรู้รายได้ Sport marketing และจาก BNK48 อีกด้วย

ขณะที่กำไรสุทธิครึ่งปีแรกปี 2562 อยู่ที่ 332 ล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อน 13.8% คิดเป็น 40% ของกำไรสุทธิทั้งปี โดยตั้งแต่ไตรมาสนี้ไปตลอดทั้งปีจะเริ่มเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะครึ่งปีหลังปี 2562 ที่เข้าสู่ช่วง High Season ทั้งนี้ บล.เอเอสแอล ประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ที่ 840 ล้านบาท ขยายตัว 30.6% เมื่อเทียบจากปีก่อน