MTC ปลื้มขายหุ้นกู้ 5 พันลบ.เกลี้ยง! ขานรับความเชื่อมั่นธุรกิจเติบโตไม่หยุด
MTC ปลื้มขายหุ้นกู้ 5 พันลบ.เกลี้ยง! ขานรับความเชื่อมั่นธุรกิจเติบโตไม่หยุด
นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ผู้นำตลาดสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์และนาโนไฟแนนซ์เบอร์หนึ่งของเมืองไทย เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัทฯได้เสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 4/2562 ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้หุ้นกู้วงเงิน 5 พันล้านบาท ให้กับผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน เมื่อวันที่ 8-10 กรกฎาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและมีนักลงทุนได้ติดต่อขอซื้อสูงเกินวงเงินที่กำหนดเสนอขายไว้อย่างมาก
“การเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ ยังคงได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม จากผู้ลงทุน โดยมีความต้องการสูงเกินวงเงินที่เสนอขาย น่าจะเป็นเพราะผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่ดี และสูงกว่าการฝากเงินกับสถาบันการเงิน โดยมีการจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ขณะเดียวกันมีความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯซึ่งมีแนโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในปัจจุบันและอนาคต” นายชูชาติ กล่าว
ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าว แบ่งเป็นหุ้นกู้อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.40% , อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.80% ต่อปี และอายุ4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัทหลักทรัพย์ภัทร
สำหรับแผนการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯจะนำเงินไปใช้สำหรับรองรับแผนขยายธุรกิจ ซึ่งมั่นใจว่าฐานสินเชื่อในปีนี้จะเติบโตอย่างน้อย 30% ตามแผนงานที่วางไว้ ส่งผลให้รายได้และกำไรในปีนี้ สร้างสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง
อนึ่ง บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บมจ. เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) ที่ระดับ “BBB+” พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 5 พันล้านบาทของบริษัทฯที่ระดับ “BBB+” ด้วยเช่นกัน
สำหรับอันดับเครดิตสะท้อนถึงผลงานที่ยั่งยืนในการเป็นผู้นำในตลาดของผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ การให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลแบบมีหลักประกัน รวมไปถึงความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่งมาโดยตลอด คุณภาพของสินทรัพย์ที่ได้รับการควบคุมเป็นอย่างดี แหล่งเงินทุนที่มีความหลากหลายมากขึ้นและสภาพคล่องในระดับที่เพียงพอ