JAS รูดหนัก 16% รับข่าวดีลเทกโอเวอร์ตั้งราคาต่ำ 6.66 บ.

JAS รูดหนัก 16% รับข่าวดีลเทกโอเวอร์ตั้งราคาต่ำ 6.66 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ล่าสุด ณ เวลา 14.33 น. อยู่ที่ระดับ 6.60 บาท ลบ 1 บาท หรือ 13.16% สูงสุดที่ 7.80 บาท ต่ำสุดที่ 5.90 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.83 พันล้านบาท

ทั้งนี้สาเหตุที่ส่งผลให้ราคาหุ้น JAS ปรับตัวลดลงอย่างหนักคาดว่ามาจากประเด็นที่จะมีการขายหุ้น JAS ให้กับบริษัททั้งในและต่างประเทศ โดยล่าสุดในวันนี้ (23 ก.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุถึงประเด็นดังกล่าวว่า ราคาที่ทำการซื้อขายกิจการของหุ้น JAS ไม่ควรจะเกินกว่า 11 เท่าของประมาณการ EBITDA ปี 2563 หรือ 6.66 บาทต่อหุ้น 

ขณะที่จากการตรวจสอบข้อมูลของ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ราคาเป้าหมายโดยเฉลี่ย (Consensus) อยู่ที่ 5.60 บาท ซึ่งราคาที่คาดว่าจะมีการซื้อขายเป็นราคาที่ต่ำกว่ากระดานซึ่งปิดวานนี้ที่ 7.60 บาท ถึง 13.15% จึงเป็นสาเหตุให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างหนักในวันนี้

โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/2562 ทาง JAS มีสินทรัพย์รวม 52,741.63 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 33,586.58 ล้านบาท และมีกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร 4,956.38 ล้านบาท ส่วนมูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value) อยู่ที่ 2.22 บาท

ทั้งนี้ บล.กสิกรไทย ระบุว่า ถึงแม้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ JAS อยู่ระหว่างการถอนตัวออกจากธุรกิจ Fxed broadband และ ADVANC อาจมีความสนใจที่จะเข้าไปเป็นบริษัท Fixed Broadband ของ JAS ที่มีสมาชิก 3.8 ล้านราย  อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการขายกิจการไม่น่าจะเกิดขึ้นด้วยสามเหตุผลสำคัญ ดังนี้

1. ADVANC ควรจะเข้าซื้อกิจการก่อนที่ JAS จะขายสินทรัพย์รอบที่สองและเช่าคืนกับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF เพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยากที่อาจจะเกิดขึ้น และเพื่อเป็นการเพิ่ม EBITDA ด้วยการยกเลิกสัญญาเช่ากับ JASIF เมื่อสัญญาจะสิ้นสุดลงในเดือนกุมภาพันธ์ 2569

2. มองว่าการเข้าซื้อกิจการจะส่งผลให้เกิดความยุ่งยากที่ ADVANC จะต้องมีการประเมินการขาดทุนที่อาจจะเกิดขึ้นจากคดีความของ JAS กับบริษัทอื่นๆ

3. เครือข่ายส่วนใหญ่ของ JAS ยังเป็นเคเบิ้ลทองแดง ซึ่งอาจจะต้องลงทุนเพิ่มเพื่อเปลี่ยนไปเป็นเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง

นอกจากนี้ ราคาหุ้นของทั้งสองบริษัทปรับตัวขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสวนทางกับข้อสันนิษฐานเนื่องจากหากการซื้อขายกิจการเกิดขึ้นจริงราคาหุ้นของ ADVANC ควรจะปรับตัวลดลง ขณะที่ราคาหุ้นของ JAS ควรจะปรับตัวขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากการซื้อขายกิจการเกิดขึ้นจริง คาดว่าราคาที่ควรจะขายอยู่ที่ 11 เท่าของ ประมาณการ EBITDA ปี 2563 หรือ 6.66 บาทต่อหุ้น ซึ่งหากทาง ADVANC เข้าซื้อกิจการจะสร้างมูลค่าให้กับ ADVANC ที่ 1.82 บาทต่อหุ้น หรือ 1% ของราคาเป้าหมายปี 2563 ซึ่งประมาณการไว้ที่ 221.8 บาท

ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ข้างต้นนั้นตั้งอยู่บนสมมุติฐานดังนี้

1.การเข้าเทกโอเวอร์กิจการจะเกิดขึ้นในช่วงที่สองของการขายสินทรัพย์ของ JAS และการเช่ากลับกับ JASIF

2.มูลค่าของการซินเนอร์จี้นั้นมาจากการขยายของ EBITDA มาร์จิ้นจากประมาณการณ์ในปี 2563 ของ JAS ที่ 26.9% เทียบกับ ประมาณการณ์ EBITDA ในปี 2563 ของ ADVANC ที่ 45.4%

3.คาดการณ์ว่ามูลค่าของการควบรวมธุรกิจกันนั้นจะคงอยู่ประมาณ 10 ปี

คำแนะนำ: ระหว่างหุ้น ADVANC และ JAS ทางนักวิเคราะห์เลือก ADVANC เนื่องจากมีมุมมองว่าเป็นหุ้น Outperform โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 221.8 บาท/หุ้น ซึ่งในส่วนของ JAS นั้น ทางนักวิเคราะห์มองว่า Underperform และให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 6.7 บาท/หุ้น ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1.ทางนักวิเคราะห์มองว่ามีความเป็นไปได้น้อยมากที่ดีลนี้จะสำเร็จ

2.ราคาหุ้นของ JAS วิ่งขึ้นถึง 70% นับจากต้นปี (เทียบกับ ADVANC ที่ปรับตัวสูงขึ้น 25% จากต้นปี) และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจากการขายสินทรัพย์รอบที่สอง และการเช่าคืนกับ JASIF

3.การแข่งขันในตลาดมือถือนั้นลดความเข้มข้นลง ในขณะที่การแข่งขันในตลาดฟิกซ์บอร์ดแบนด์ยังคงร้อนแรงอยู่

4.ทางนักวิเคราะห์ยังคงมองเห็นถึงช่องว่างสำหรับมูลค่าที่มีจะปรับตัวสูงขึ้นของ ADVANC จากรายได้ที่สูงขึ้น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานหลังปิดระบบ 2G และรายจ่ายลงทุนที่ต่ำกว่าคาดของคลื่น 5G

 

อนึ่งก่อนหน้านี้ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ได้นำเสนอข่าวเมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า แหล่งข่าววงการสื่อสาร เปิดเผยว่า ขณะนี้ JAS อยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทสื่อสารจากต่างประเทศมากกว่า 1 ราย ที่มีความสนใจที่จะเข้ามาซื้อหุ้น และร่วมทุนกับ JAS โดยหนึ่งในนั้นคือ บริษัท โคเรีย เทเลคอมมิวนิเคชั่น (KT) ยักษ์ใหญ่สื่อสารของประเทศเกาหลีใต้ ที่อยู่ระหว่างการเจรจาข้อตกลงและเงื่อนไขในการเข้ามาร่วมลงทุน โดยขณะนี้ JAS ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกร่วมทุนกับบริษัทต่างประเทศรายใด แต่คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปี 2562 นี้

ขณะที่ช่วงที่ผ่านมามีกระแสข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องว่ามีบริษัทสื่อสารในประเทศไทย 2 รายใหญ่ที่มีความสนใจเข้าซื้อกิจการ JAS ด้วย ไม่ว่าจะเป็นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC และล่าสุดบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC โดย ADVANC ต้องการได้ JAS เข้ามาซึ่งจะมาช่วยเสริมธุรกิจให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ต้องการขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้นเพื่อขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจนี้

ขณะที่ DTAC ถือเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายมือถือรายเดียวที่ยังไม่มีบริการธุรกิจอินเทอร์เน็ต ถือเป็นข้อเสียเปรียบ ADVANC และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE โดยเฉพาะ TRUE ที่ถือเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจบริการอินเทอร์เน็ต

Back to top button