ตลท.ปลดเครื่องหมาย SP หุ้น PPPM หลังแจงข้อมูลผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ 580 ลบ.
ตลท.ปลดเครื่องหมาย SP หุ้น PPPM หลังแจงข้อมูลผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ 580 ลบ.
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปลดเครื่องหมายห้ามการซื้อขายหลักทรัพย์ (SP) บริษัท พีพี ไพร์ม จำกัด (มหาชน) หรือ PPPM ตั้งแต่การซื้อขายรอบบ่ายของวันนี้ หลังจากบริษัทชี้แจงผลกระทบต่อฐานะการเงินและการดำเนินงานของบริษัทแล้ว
โดย PPPM แจงข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ตามหนังสือฉบับที่อ้างถึงบริษัทและมีหนังสือแจ้งเหตุการณ์ผิดนัดหุ้นกู้ตามมาตรา 57 (6) นั้น บริษัทขอเรียนแจ้งว่า บริษัทได้ออกหุ้นกู้รวมทั้งหมด 5 ครั้ง และบริษัทขอชี้แจงการชำระหนี้หุ้นกู้ดังนี้
1) หุ้นกู้ลำดับที่ 1 จำนวน 260.50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 นายทะเบียนหุ้นกู้ได้ชำระหนี้ให้กับผู้ถือหุ้นกู้ไปบางส่วน เป็นเงินจำนวนประมาณ 216.8 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะได้เข้าไปเจรจาชำระหนี้คืนให้กับธนาคารโดยเร่งด่วนต่อไป สำหรับหุ้นกู้ส่วนที่เหลือจำนวนประมาณ 43.7 ล้านบาท บริษัทจะชำระดอกเบี้ยและต้นเงินให้กับผู้ถือหุ้นกู้ทุกราย ภายในวันที่ 2 สิงหาคม 2562 ณ สำนักงานบริษัท ฟีนิกซ์ แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด โดยเงินชำระหนี้ดังกล่าวมาจากการเพิ่มทุน
2) หุ้นกู้ลำดับที่ 2 จำนวน 319.50 ล้านบาท ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 2 สิงหาคม 2562 บริษัทจะชำระหนี้ต้นเงินและดอกเบี้ยภายใน 5 วัน นับแต่วันครบกำหนดไถ่ถอน (วันที่ 7 สิงหาคม 2562) ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดสิทธิตามข้อกำหนดว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้และผู้ถือหุ้นกู้ โดยเงินที่มาชำระดังกล่าวจะมาจากการขายหลักทรัพย์เพื่อค้า, เงินทุนหมุนเวียนของกิจการและเงินจากการเพิ่มทุน ดังรายละเอียดลำดับที่ 1 และ 2 ปรากฏตามตารางด้านล่างนี้
ส่วนหุ้นกู้ลำดับที่ 3 ถึงลำดับที่ 5 เป็นหุ้นกู้ที่ยังไม่ครบกำหนดไถ่ถอน จำนวน 541.60 ล้านบาท บริษัทขอเรียนว่า เมื่อบริษัทมิได้ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ตามลำดับที่ 1 และลำดับที่ 2 แล้ว จึงไม่มีเหตุการณ์ผิดนัดชำระหนี้เงินเกิดขึ้นแต่อย่างใด ซึ่งบริษัทจะจัดการบริหารเงินเพื่อให้สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดระยะเวลาไถ่ถอนหุ้นกู้ และบริษัทฯ จะไม่มีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในเรื่องดังกล่าวอีกต่อไป และเมื่อได้ชาระหนี้ไถ่ถอนหุ้นกู้แล้ว จะได้เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป
อย่างไรก็ตาม บริษัทขอเรียนเพิ่มเติมว่า บริษัทมีหนี้เงินกู้ระยะสั้นและระยะยาวรวมเป็นเงินจำนวนรวม 927 ล้านบาท เมื่อบริษัทยังมิได้มีการผิดนัดชำระหนี้ดังกล่าวข้างต้น ดังนั้น ภาระหนี้ดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทเช่นกัน และไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการดาเนินธุรกิจของบริษัท ซึ่งบริษัทฯ ยังคงประกอบธุรกิจอาหารสัตว์และธุรกิจพลังงานความร้อนใต้พิภพ ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งหมด 15 ยูนิต ได้ตามปกติ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้ดำเนินการจำหน่ายออกไป