ฉวยจังหวะเก็บ WHAUP รอรับปันผล โบรกฯชี้ราคาแลกการ์ดแถมยีลด์สูง 4%
ฉวยจังหวะเก็บ WHAUP รอรับปันผล โบรกฯชี้ราคาแลกการ์ดแถมยีลด์สูง 4%
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้น บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP หลังมีนักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ให้ราคาเป้าหมาย 9 บาทต่อหุ้น โดยมองว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ WHAUP ในไตรมาส 2/62 อยู่ที่ 695 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.8% จากปีก่อน, เพิ่มขึ้น 110.7% จากไตรมาสก่อน
โดยกำไรที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจากไตรามาสก่อนเป็นเพราะรายได้ equity income เพิ่มขึ้น ในขณะที่บริษัทมีกำไรจาก FX ที่ยังไม่รับรู้ 162.3 ล้านบาท
ดังนั้น กำไรสุทธิในไตรมาส 2/62 จึงอยู่ที่ 858 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 189.8% จากปีก่อน, เพิ่มขึ้น 40.9% จากไตรมาสก่อน พร้อมคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักในช่วงครึ่งแรกของปี 62 จะอยู่ที่ 1.0 พันล้านบาท ลดลง 4.8% จากปีก่อน คิดเป็น 52.9% ของประมาณการกำไรปีนี้
ทั้งนี้ มองว่ายังมี upside อีก 1.0-1.2 บาท/หุ้น จากการเข้าซื้อหุ้น 34% ในธุรกิจน้ำประปาที่เวียดนาม โดยฝ่ายวิจัยยังคงราคาเป้าหมาย DCF ปี 2562 เอาไว้ที่ 9 บาท โดยคิดว่าตลาดมอง WHAUP เป็นหุ้น laggard ในกลุ่มโรงไฟฟ้าเนื่องจาก
1.) การเติบโตของกำไรในปี 2562-63 จะยังไม่น่าสนใจ จนกว่าโครงการ GULF IPP (2,500MW) จะเริ่มดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในปี 2565 (WHAUP เป็นผู้จัดหาน้ำให้) และ 2) ไม่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่เข้ามาอย่างเป็นชิ้นเป็นอัน แต่อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นในปัจจุบันก็คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจในปี 2562-63 ที่ 4.0%
โดยล่าสุด นายวิเศษ จูงวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WHAUP เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจผลประกอบการปีนี้จะเติบโตจากปีก่อน เป็นผลจากการขยายธุรกิจน้ำ และไฟฟ้าต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าปริมาณการขายน้ำเพื่ออุตสาหกรรมและการให้บริการบำบัดน้ำเสียไม่ต่ำกว่า 120 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปีก่อนที่มีปริมาณการขายอยู่ที่ 105 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องจากปริมาณการใช้น้ำของลูกค้าภายในนิคมอุตสาหกรรมของกลุ่มบมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ทั้งรายเดิม และรายใหม่เพิ่มสูงขึ้น
ขณะเดียวกันบริษัทยังได้ทำสัญญาขายน้ำปราศจากแร่ธาตุ (Demineralized Water) ให้กับ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ระยะอายุสัญญา 15 ปี ในปริมาณ 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน สำหรับน้ำปราศจากแร่ธาตุ ถือเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท และมีมาร์จิ้นสูง
พร้อมกันนี้บริษัทยังได้เข้าลงทุนในโครงการน้ำประปาในเวียดนาม ด้วยการถือหุ้นในสัดส่วน 34% ในบริษัท Duong River Surface Water Plant JSC (SDWTP) ซึ่งคาดว่ากระบวนการซื้อขายหุ้นจะแล้วเสร็จปลายไตรมาส 3/62 และจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการเข้าลงทุนโครงการดังกล่าว ตั้งแต่ไตรมาส 4/62 เป็นต้นไป
โดย SDWTP ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำประปาในเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม ปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ทั้งสิ้น 54,750,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี (เฟส 1A) และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เฟส 1B เพื่อขยายกำลังการผลิตอีก 54,750,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี คาดจะเริ่มขายน้ำได้ในช่วงไตรมาส 4 นี้ ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตน้ำในปี 62 เพิ่มเป็น 109 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี
นายวิเศษ กล่าวอีกว่า สำหรับธุรกิจไฟฟ้าบริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 554 เมกะวัตต์ (MW) และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 570 เมกะวัตต์ โดยจะมาจากโครงการที่ทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเพิ่มขึ้น อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมขนาด 8.63 เมกะวัตต์ ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช จ.ชลบุรี และโครงการโซลาร์บนหลังคา (Solar Rooftop) ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีการลงนามสัญญากับลูกค้าใหม่อีกมากกว่า 15 เมกะวัตต์ และทำให้ทั้งปีจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ลงนามในสัญญา Solar Rooftop เกิน 25 เมกะวัตต์แน่นอน
ส่วนของโซลาร์รูฟท็อปบริษัทยังคงตั้งเป้าหมายไว้ที่ปี 65 จะมีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 100 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันบริษัทมีการเซ็นสัญแล้ว 25 เกมะวัตต์ ซึ่งทยอยเข้าดำเนินก่อสร้างอยู่ในปัจจุบัน
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการเข้าลงทุนโครงการโซลาร์ฟาร์มและโซลาร์ลอยน้ำทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาแล้วมากกว่า 10 เมกะวัตต์ ส่วนธุรกิจน้ำในเวียดนาม บริษัทยังมองโอกาสในการลงทุนเพิ่มต่อเนื่อง
ด้านธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติ โครงการ ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์น ซีบอร์ด เอ็นจีดีพี 4 ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วง มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถรองรับการจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติได้ถึง 2 ล้านล้านบีทียูต่อปี และถือเป็นโครงการที่ 2 หลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติโครงการ ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด เอ็นจีดี 2 ในช่วงปลายปี 61