BJCHI วิ่งฉิว 5% จับตาผลงานปีนี้โตแกร่งหลังตุนแบ็คล็อกแน่น 4 พันลบ.รับรู้ถึงปี 64
BJCHI วิ่งฉิว 5% จับตาผลงานปีนี้โตแกร่งหลังตุนแบ็คล็อกแน่น 4 พันลบ.รับรู้ถึงปี 64 โดย ณ เวลา 11.34 น. อยู่ที่ระดับ 2.58 บาท บวก 0.12 บาท หรือ 4.88% สูงสุดที่ระดับ 2.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.46 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.53 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ BJCHI ณ เวลา 11.34 น. อยู่ที่ระดับ 2.58 บาท บวก 0.12 บาท หรือ 4.88% สูงสุดที่ระดับ 2.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.46 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.53 ล้านบาท
ด้านนายหยัง เจิน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BJCHI เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปีนี้ที่พลิกมีกำไรสุทธิ 15 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 99 ล้านบาท หลังจากที่บริษัทจะทยอยรับรู้รายได้จากโครงการในมืออย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันบริษัทฯมีกระแสเงินสดในมือกว่า 1,000 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ในระดับต่ำกว่า 0.2 เท่า
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 2/62 บริษัทฯมีกำไรจากการดำเนินงาน โดยมีกำไรขั้นต้น 151 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 12 ล้านบาท สาเหตุหลักเนื่องจาก การรับรู้รายได้ตามสัญญาจากโครงการในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซหลายโครงการที่เพิ่มสูงขึ้น
ล่าสุด BJCHI ได้รับงานโครงการขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรรมน้ำมันและก๊าซ มีมูลค่าโครงการประมาณ 3,000 ล้านบาท ทั้งโครงการในประเทศและต่างประเทศ ส่วนใหญ่เป็นงานแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กและประกอบกลุ่มชิ้นงานขนาดใหญ่ที่บริษัทมีประสบการณ์เป็นอย่างดี และเมื่อรวมกับมูลค่างานที่มีในมือ (Backlog) ประมาณ 1,000 ล้านบาทแล้ว ทำให้ปัจจุบัน BJCHI มีมูลค่า Backlog เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องระหว่างปี 62-64
“การที่บริษัทคว้างานโครงการขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรรมน้ำมันและก๊าซ จะถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ผลประกอบการของบริษัทฟื้นตัวอย่างชัดเจนในอนาคตอันใกล้ หลังจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบกับภาวะการชะลอตัวลงของอุตสาหกรรม” นายหยัง เจิน ลี กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างรอลุ้นผลประมูลงานโครงการที่มีศักยภาพสูง (High Potential Project) อยู่อีกเกือบ20,000 ล้านบาท โดยบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรับงานของบริษัทฯ มากขึ้นในอนาคต ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการในปีนี้ และปีหน้าเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป