ดักเก็บ EPCO จับตากำไรปี 62 ทำสถิติสูงสุดใหม่ หลังบุ๊กพิเศษขายโรงไฟฟ้า 500 ลบ.
ดักเก็บ EPCO จับตากำไรปี 62 ทำสถิติสูงสุดใหม่ หลังบุ๊กพิเศษขายโรงไฟฟ้า 500 ลบ.
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่มีแนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโตอย่าง บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ทำการขายโรงไฟฟ้าเวียดนามขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 99.216 MW ให้บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC มูลค่า 1,259 ล้านบาท โดยคิดเป็นกำไรจากเงินลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ นักวิเคราะห์วางแนวรับหุ้น EPCO ไว้ที่ระดับ 4.3 บาท แนวต้าน 5 บาท และตัดขาดทุนที่ระดับ 4.2 บาท
อนึ่งก่อนหน้านี้ นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ EPCO เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้ บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (EP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ EPCO ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน 75% ของหุ้นทั้งหมด ขายหุ้นและหนี้ทั้งหมดของบริษัท โซล่าร์ พาวเวอร์ แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (SPM) ให้กับบริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) (BGC) เป็นมูลค่าประมาณ 1,259 ล้านบาท
โดยได้ลงนามซื้อขาย (SPM) พร้อมได้รับเงินมัดจำมาแล้ว 125.90 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับร้อยละ 10 ของมูลค่าสิ่งตอบแทนของสินทรัพย์ที่จำหน่ายไป ส่วนที่เหลือจำนวน 1,133.10 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับร้อยละ 90 จะจ่ายชำระในวันที่โอนหุ้นในบริษัท SPM ให้แก่ผู้ซื้อหุ้นเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้บริษัทฯจะนำเงินที่ได้รับไปชำระคืนเงินกู้ เพื่อลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทฯ และ/หรือ ใช้เป็นเงินทุน เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ และการลงทุนของบริษัทฯ ในอนาคตต่อไป
“ดีลนี้ถือว่าได้รับผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจมาก คิดเป็นกำไรจากการลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท ทั้งนี้โรงไฟฟ้าในเวียดนามที่ขายให้กับ BGC เป็นการขายหุ้นและหนี้ทั้งหมด โดยในช่วงที่เข้าลงทุนเมื่อปลายปี 2561 ที่ผ่านมา โครงการดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 2,900 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนครั้งนั้นแบ่งเป็นเงินกู้ร้อยละ 65 และมาจากเงินลงทุนร้อยละ 35 ซึ่งในส่วนของ SPM ลงทุนในโปรเจ็กดังกล่าวร้อยละ 65 ใช้เงินลงทุนเพียงประมาณ 710 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับราคาที่ขายออกไปครั้งนี้ทำให้ได้รับกำไรพิเศษจากการลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทฯ ปีนี้เติบโตแบบก้าวกระโดดและทำสถิตินิวไฮอีกครั้ง” นายยุทธ กล่าว
ขณะที่ปัจจุบัน SPM ถือหุ้นร้อยละ 67 ของหุ้นทั้งหมดในบริษัท Phu Khanh Solar Power Joint Stock Company (“PKS”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดย PKS ประกอบกิจการธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ Xuan Tho 1 (“โครงการ XT1”) และ โครงการ Xuan Tho 2 (“โครงการ XT2”) มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 99.216 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดฟูเยี้ยน ประเทศสาธารณรัฐ สังคมนิยมเวียดนาม โดยที่ก่อนดำเนินการซื้อขายหุ้นและหนี้ของ SPM ให้กับผู้ซื้อนั้น SPM จะซื้อหุ้นของ PKS เพิ่ม จากผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งเป็นกรรมการของ Nam Viet Hung Investment Corporation (“NVH”) ในสัดส่วนร้อยละ 2
ทั้งนี้ โครงสร้างการถือหุ้นของ PKS ก่อนการขายหุ้น ประกอบด้วย SPM ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 67 กับ บริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ซิสเต็มส์โซลูชั่น จำกัด(มหาชน) (“CSS”) ในสัดส่วนร้อยละ 25 และหุ้นส่วนที่เหลือถือหุ้นโดย Nam Viet Hung Investment Corporation (“NVH”) ในสัดส่วนร้อยละ 5 และกรรมการ 1 ท่านของ NVH ถือหุ้น ในสัดส่วนร้อยละ 3