TPIPP ร่วง4% ทุบสถิติ”ออลไทม์โลว์” หลังแจกปันผลต่ำคาด ฟากโบรกฯยังเชียร์”ซื้อ” เคาะเป้า7บ.
TPIPP ร่วง4% ทุบสถิติ"ออลไทม์โลว์" หลังแจกปันผลต่ำคาด ฟากโบรกฯยังเชียร์"ซื้อ" เคาะเป้า7บ. โดย ณ เวลา 15.33 น. ราคาอยู่ที่ 4.58 บาท ลบ 0.18 บาท หรือ 3.78% สูงสุดที่ 4.76 บาท ต่ำสุดที่ 4.52 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 286.02 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP ล่าสุด ณ เวลา 15.33 น. อยู่ที่ 4.58 บาท ลบ 0.18 บาท หรือ 3.78% สูงสุดที่ 4.76 บาท ต่ำสุดที่ 4.52 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 286.02 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาหุ้นปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2560
โดยคาดว่าสาเหตุที่ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงในวันนี้ เป็นผลจากการประกาศจ่ายเงินปันผลที่ต่ำกว่าที่มีนักวิเคราะห์มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ก.ย.62) แนะนำ “ซื้อ” TPIPP ราคาเป้าหมาย 7 บาท/หุ้น โดยราคาหุ้น TPIPP ทรุดหนัก ตั้งแต่ประกาศจ่ายปันผลกำไรครึ่งปีแรกเพียง 0.10 บาท ต่ำกว่าที่บล.เมย์แบงก์และตลาดคาดหมายไว้ 0.20 บาท ในขณะที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/62 ประเมินจะยังเด่น คาดกำไรปกติเท่ากับ 1,100 ล้านบาท (ลดลง 6% จากไตรมาสก่อน, เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน) อนาคต TPIPP มีแผนจะลงทุนหลายโครงการ และ บางโครงการจะเป็นโครงการขนาดใหญ่ต้องใช้เงินมาก ดังนั้น จึงปรับลดคาดการณ์ปันผลปีนี้ลง ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย P/E ปีนี้ต่ำ
ทั้งนี้ ประเมินปริมาณขายไฟในไตรมาส 3/62 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ 507M.kWh (เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อน, เพิ่มขึ้ย 43% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน) แบ่งเป็นขายไฟให้ กฟผ. 292M.kWh (ลดลง 1% จากไตรมาสก่อน, เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน) และ ขายไฟให้ TPIPL 215 M.kWh (เพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อน, เพิ่มขึ้น 142% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน)
โดยแม้ว่าไตรมาสนี้จะมีการปิดซ่อมบำรุงที่ไม่ได้วางแผนไว้ TG5 10วัน และ มีอุบัติเหตุสายส่งทำให้ซ่อม Boiler บางตัว 15วัน เราประเมินยอดขายรวมเท่ากับ 2,592ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อน, เพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน) อัตรากำไรขั้นต้น คาดจะปรับลดลงเล็กน้อย 48.5% จาก 51.7% ในไตรมาสก่อน และ 50.3% ในไตรมาสก่อน เนื่องจากสัดส่วนขายไฟให้ TPIPL มากขึ้น และ คาดจะมีค่าใช้จ่ายบางส่วนในการซ่อมบำรุงบันทึกในต้นทุน รวมแล้วเราประเมินกำไรปกติจะยังเด่นเท่ากับ 1,100 ล้านบาท (ลดลง 6% จากไตรมาสก่อน, เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน)
นอกจากนี้ ภายใต้แผน PDP ใหม่ จะมีการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขยะเพิ่ม 400MW โดย ปัจจุบัน TPIPP กำลังพิจารณาแผนการลงทุน คือ 1.) โรงไฟฟ้า TG7 ของ TPIPP จะยื่นขายไฟ 40MW ภายในสิ้นปีนี้ใช้เชื้อเพลิงจากขยะเผาตรง และ RDF 2.) โรงไฟฟ้า TG1 หรือ TG2 ของ TPIPP จะยื่นขายไฟ 20MW ใช้เชื้อเพลิง RDF กำลังเจรจาเรื่องปัญหาสายส่งไม่พอ 3.) โรงไฟฟ้าขยะ 10MW ที่นครราชสีมา ร่าง TOR เสร็จแล้ว กำลังรอเปิดประมูล 4.) โรงไฟฟ้าขยะที่สงขลา 10MW กำลังร่าง TOR คาดเสร็จเดือนหน้า 5.) โรงไฟฟ้าขยะที่ชลบุรี 40MW ปัจจุบันหน่วยงานของรัฐฯกำลังศึกษา 6.) กำลังศึกษาแผนการลงทุนโครงการขนาดใหญ่เพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี TPIPP กำลังศึกษาแผนการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ ทำให้จ่ายปันผลกำไรครึ่งปีแรกเพียง 0.10 บาท จากปกติในอดีตจะจ่ายปันผล 0.10 บาทต่อไตรมาส แม้ว่ากำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่ ดังนั้น เราจึงลดคาดการณ์ปันผลในปีนี้ลงเหลือ 0.25 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันทรุดหนัก ปัจจุบันซื้อขาย P/E ปีนี้ต่ำ 9.2 เท่า โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ” ลักษณะลงทุน ประเมินราคาเป้าหมาย ด้วยวิธี DCF (WACC = 7.5%) เท่ากับ 7.0 บาท