PSTC ขาย ”ไทยไปป์ ไลน์ฯ” 43% เตรียมบุ๊กกำไร 3 พันลบ.-โบรกฯแนะซื้ออัพสูง 1.20 บ.

PSTC ขาย ”ไทยไปป์ ไลน์ฯ” 43% เตรียมบุ๊กกำไร 3 พันลบ.-โบรกฯแนะซื้ออัพสูง 1.20 บ.


จากกรณีบริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC ได้มีมติอนุมัติให้บริษัท บิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จำกัด (“BIGGAS”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท ถือหุ้นร้อยละ 51 ของทุนจดทะเบียน จำหน่ายหุ้นสามัญของ บริษัท ไทยไปป์ ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (TPN) จำนวน 7,739,998 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 43 ของทุนจดทะเบียน ซึ่ง TPN เป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัท

โดย BIGGAS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยได้จำหน่ายหุ้นสามัญ TPN ให้บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำ กัด (มหาชน) หรือ EGCO ในราคารวมทั้งสิ้น 2,901.50 ล้านบาท โดยมีการลงนามในสัญญาซื้อขายและจองซื้อหุ้นเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2562 และลงนามในสัญญาผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 กันยายน 2562

ทั้งนี้บริษัทฯจะได้รับเงินสดจำนวน 2,901.50 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ตกลงร่วมกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยแบ่งชำระเป็น 2 งวดดังนี้งวดแรกจำนวน 1,661.50 ล้านบาท ในวันซื้อขายและจองซื้อหุ้น TPN และงวดที่สองจำนวน 1,240.00 ล้านบาท ภายใต้เงื่อนไขเมื่อ TPN เข้าลงนามในสัญญากู้ยืมเพื่อการก่อสร้างโครงการ

โดยภายหลังการขายหุ้นสามัญ TPN บริษัทจะนำมาลงทุนในโครงการใหม่ ๆ ของกลุ่มบริษัท ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและเสริมสภาพคล่องด้านกระแสเงินสด ประกอบกับมีพันธมิตรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านพลังงานส่งผลให้โครงการท่อน้ำมันมีศักยภาพในการดำเนินงานมากยิ่งขึ้น

ด้านบล.โนมูระ พัฒนะสิน ระบุในบทวิเคราะห์ (25 ก.ค.62) ว่า PSTC แจ้งตลาดจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัทย่อย ไทยไปปไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด หรือ TPN (เดิม PSTC ถือ 100%) ให้กับบริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO สัดส่วน 43% ่(จำนวน 7.74 ล้านหุ้น จากทั้งหมด 18 ล้านหุ้น)

ซึ่งจะชำระเป็นเงินสดให้แก่ PSTC ที่มูลค่าเท่ากับ 2.90 พันล้านบาท แบ่งชำระ 2 ครั้ง 1) 1.66 พันล้านบาท ในวันซื้อขาย TPN (25 ก.ย.2562) 2) 1.24 พันล้านบาท เมื่อ TPN ลงนามในสัญญากู้ยืมก่อสร้างโครงการ (คาดภายในต.ค.62) ทั้งนี้ PSTC คงเหลือถือ TPN 57% ในขณะที่ต้นทุน PSTC เท่ากับ 146.3 บาทต่อหุ้น และขาย EGCO ที่ 374.8 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้มีมุมมองบวก ต่อการขายหุ้นในครั้งนี้มาก โดยเล็งเห็นจุดบวก 3 ประเด็น

1.บริษัทมีความแข็งแรงของฐานะการเงินอย่างก้าวกระโดดทันที โดย D/E ปรับตัวลงเหลือเพียง 0.28 เท่า (ก่อนขาย 0.7 เท่า) และมีกระแสเงินสดในมือเพื่อเดินหน้าต่อยอดธุรกิจในกลุ่มพลังงานอีก 2.97 พันล้านบาท สอดคล้องกับสินทรัพย์รวมแตะ 1.26 หมื่นล้านบาท สิ้นปี 2562

2.EGCO ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าขนาดใหญ่ของประเทศ (Market cap 1.81 แสนล้านบาท) จะ่วยสนับสนุนด้านธุรกรรมการเงิน โดยเฉพาะการกู้เงินกับสถาบันการเงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำลง (คาดอัตราดอกเบี้ยกู้ลดลงราว 1%)

3.ปลดล็อคความกังวลโครงการท่อน้ำมัน จากความเชี่ยวชาญและน่าเชื่อมั่นจาก EGCO พิสูจน์ให้เห็นว่าโครงการท่อน้ำมัน ได้ดำเนินงานครบถ้วนและเหมาะสมเชิง Valuation

สำหรับโครงการท่อน้ามัน อิงตามสัดส่วนการถือ 57% เท่ากับมูลค่าพื้นฐาน 0.432 บาทต่อหุ้นเงินลงทุน 8.8 พันลบ. สัดส่วนการเงินเท่ากับ กู้สถาบันการเงิน 81% & ส่วนทุน 19% โดยประเมิน มูลค่าสุทธิเหมาะสมท่อน้ำมันอยู่ที่ 8.99 พันลบ. บนสมมติฐานอายุโครงการ 30 ปี,ปริมาณการใช้น้ำมัน 4 พันล้านลิตรต่อปี (Capacity 6 พันล้านลิตร), WACC 7.5%, และขึ้นค่าบริการปีละ+1.5% โดยใช้เวลาก่อสร้างราว 28 เดือน กำหนดการ COD ในช่วงไตรมาส 2/65 คาดจะสร้างกาไรสุทธิต่อปี ระหว่าง 508 ลบ. (ปีที่ 1) ถึง 2.3 พันลบ. (ปีที่ 30) นอกจากนี้หากอ้างอิงจากที่ PSTC ถือ TPN ในปัจจุบันที่สัดส่วน 57% คำนวณเท่ากับมูลค่าพื้นฐาน 0.432 บาทต่อหุ้น Valuation: ปรับ TP19F ขึ้นที่ 1.20 บาท + ปรับกำไรปี 2562 ขึ้นสู่ 4.32 พันลบ.

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับมูลค่าพื้นฐานปี 2562 ขึ้นสู่ 1.20 บาทต่อหุ้น(เดิม 0.88 บาท) จาก i) ปรับสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท TPN ขึ้นสู่ 57% จากเดิม 47% (Figure 1) เพิ่มมูลค่า +0.07 บาทต่อหุ้น เท่ากับ 0.432 บาทต่อหุ้น ii) มูลค่าเงินสด 2.9 พันลบ. เท่ากับ +0.244 บาทต่อหุ้น สำหรับต่อยอดในธุรกิจพลังงานอื่น รวมถึง ปรับประมาณการกาไรสุทธิปี 262 ขึ้นสู่ระดับ 4.32 พันลบ.เพิ่มขึ้น+1,983% (Figure 2) จาก i) กาไรขาย TPN 43% ที่ +1.77 พันลบ. ii) ยอดกลับรายการสินทรัพย์ (Revalue Asset) +2.34 พันลบ. รวมเป็นกาไรส่วนเพิ่ม 4.11 พันลบ. บันทึกในไตรมาส 3/62

ด้านราคาหุ้น PSTC ปิดวันนี้(25ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.78 บาท ลบ 0.04 บาท หรือ4.88% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 434.36 ล้านบาท

Back to top button