CWT โอนธุรกิจฟอกหนังสู่บ.ย่อยรับแผนปรับโครงสร้างหนุนผลงานเติบโต-เพิ่มโอกาสขยายธุรกิจ

บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CWT แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (2 ต.ค.) มีมติอนุมัติวาระการปรับโครงสร้างโดยการโอนกิจการบางส่วน (Partial Business Transfer : PBT) และอนุมัติให้มีการจัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อรับโอนกิจการบางส่วน  เพื่อให้บรรลุตามแผนกลยุทธ์ของบริษัท ในการบริหารการดำเนินธุรกิจแต่ละประเภทให้ชัดเจนและเพื่อสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนและเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจ

รวมทั้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินกิจการ และการบริหารงานของกลุ่มบริษัท ซึ่งเบื้องต้นคาดว่ากระบวนการโอนกิจการบางส่วนนี้ จะสามารถเริ่มและดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในปี 2563

ทั้งนี้ จะมีการปรับโครงสร้างกิจการโดยการโอนกิจการบางส่วน คือ ธุรกิจฟอกหนังสัตว์ โดยกิจการผลิตและจำหน่ายซึ่งมีผลิตภัณฑ์ 4 ประเภท ได้แก่ ผลิตภัณฑ์หนังสัตว์ฟอก ,ผลิตภัณฑ์ของเล่นสัตว์เลี้ยง ,ผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์หนัง และผลิตภัณฑ์เบาะหนังและชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์

รวมถึงทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องและที่ใช้ในการประกอบธุรกิจดังกล่าว สัญญา ใบอนุญาตและบัตรส่งเสริมการลงทุนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจดังกล่าวทั้งหมด ให้แก่บริษัทย่อยที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่เพื่อรับโอนกิจการดังกล่าว (บริษัทย่อย) มีทุนจดทะเบียนเริ่มแรกจำนวน 1 ล้านบาท โดยบริษัทจะถือหุ้นในสัดส่วน 100% ในบริษัทย่อย

สำหรับมูลค่าการโอนกิจการดังกล่าวจะเท่ากับราคาตามมูลค่าบัญชี (Book Value) หรือราคาตามวิธีการปรับปรุง มูลค่าทางบัญชี (Adjusted Book Value) หรือราคายุติธรรมของกิจการที่โอน (Fair Value) แล้วแต่ประเภทของทรัพย์สินและหนี้สินของกิจการที่โอน ณ วันโอนกิจการ เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขการโอนกิจการบางส่วน

โดยคาดว่ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (ทรัพย์สินทั้งหมดของกิจการที่จะโอนหักด้วยหนี้สินทั้งหมดของกิจการที่จะโอน) ที่จะโอนทั้งหมดคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 445 ล้านบาท อย่างไรก็ตามมูลค่าของกิจการที่โอนนั้นจะขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ทำการโอนกิจการดังกล่าว โดยบริษัทจะชำระค่าตอบแทนการโอนการบางส่วนให้กับบริษัทเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทย่อย

การปรับโครงสร้างกิจการโดยการโอนธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฟอกหนังสัตว์ให้แก่บริษัทย่อยในครั้งนี้ ภายหลังการปรับโครงสร้างแล้วเสร็จบริษัท จะเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดในบริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นใหม่เพื่อรับโอนกิจการ โดยที่โครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทไม่มีการเปลี่ยนแปลง การปรับโครงสร้างกิจการครั้งนี้จึงไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นของบริษัท