OSP แรลลี่ยาว! กระฉูดต่อ6% ทำนิวไฮต่อเนื่อง โบรกฯเชียร์ซื้อลุ้นกำไร Q3 โตดี-อัพเป้า 45 บ.

OSP แรลลี่ยาว! กระฉูดต่อ6% ทำนิวไฮต่อเนื่อง โบรกฯเชียร์ซื้อลุ้นกำไร Q3 โตดี-อัพเป้า 45 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ณ เวลา 15.27น. อยู่ที่ระดับ 42.50 บาท บวก 2.25 บาท หรือ 5.59% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 808.35 ล้านบาท  ราคาหุ้นทำนิวไฮตั้งแต่เข้าตลาด 17 ต.ค.61

บล.เคจีไอ ระบุว่า คาดว่ากำไรสุทธิของ OSP ในไตรมาส 3/62 จะอยู่ที่ 824 ล้านบาท (+6.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +16.1%เทียบไตรมาสก่อนหน้า) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จะมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น และอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่กำไรที่เพิ่มขึ้นเทียบไตรมาสก่อนหน้า จะมาจากการที่ไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษในการกันสำรองผลประโยชน์พนักงาน คาดว่า OSP จะได้อานิสงส์จากปัจจัยฤดูกาล และยอดขาย C-Vitt ที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส4/62 ยังคงคำแนะนำ ซื้อ และขยับไปใช้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 45.00 บาท อิงจาก PER เดิมที่ 35.0x

 

บล.เอเชีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อ OSP ราคาเป้าหมาย 45 บาท อิงค่า PER เฉลี่ยที่เหมาะสมในปี 2563 ที่ 35 เท่า โดยมองว่า OSP มีศักยภาพในการเติบโตในประเทศได้จากการแตกไลน์สินค้าเพิ่ม ส่วนตลาดต่างประเทศนั้น OSP เพิ่งรุกเข้าไปในประเทศหลักเช่น เมียนมาร์ และเวียดนาม ซึ่งมีประชากรวัยทำงานเป็นสัดส่วนสูง ตลาดโดยรวมเมื่อพัฒนาแล้วคาดว่าน่าสนใจอย่างมาก

สำหรับยอดขายเครื่องดื่มในประเทศของ OSP ช่วงไตรมาส 2/62 เติบโต 7.3% ยอดขาย Personal Care ช่วงไตรมาส 2/62 เติบโตสูงมากถึง 23.7% ทำให้ยอดขายรวมเครื่องดื่มในครึ่งปีหลังปี 2562 เติบโต 5.6% เมื่อเทียบจากปีก่อน สวนทางภาพรวมอุตสาหกรรมทั้งสองประเภท สาเหตุสำคัญมาจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค เป็นการ Turnaround ที่ชัดเจนของ 3 แบรนด์หลัก คือ ฉลาม, Babi Mind, และ Twelve Plus การใช้กลยุทธ์ “Fit Fast Firm” เริ่มเห็นผลลัพธ์เด่นชัดตั้งแต่ไตรมาส 2/62 และคาดว่าจะทำให้ยอดขายของ OSP เติบโตโดดเด่นต่อไปในครึ่งปีหลังปี 2562

ส่วนการเติบโตในต่างประเทศน่าจับตามองปัจจุบัน OSP มีสัดส่วนการขายในประเทศ 84% และต่างประเทศ 16% ซึ่งในต่างประเทศนั้นเน้นหนักไปที่ประเทศเมียนมาร์ 68% ของยอดขายในส่วนต่างประเทศ ซึ่งในสิ้นปี 2562 นี้ OSP จะเปิดโรงงานผลิตในประเทศเมียนมาร์ที่นิคมอุตสาหกรรมติลาวา เมืองย่างกุ้ง คาดว่าจะทำให้รุกยอดขายได้ดีขึ้น นอกจากนี้ OSP ยังได้ Agent ที่แข็งแกร่งในเวียดนาม เตรียมรุกตลาดเวียดนามในไตรมาส 4/62 นี้ด้วย

อย่างไรก็ตามแม้ว่าตลาดอาจจะมีข้อกังวลเรื่องการเก็บภาษีน้ำตาลในอัตราใหม่เข้ามากระทบกลุ่มอุตสาหกรรม โดยในช่วง 1 ต.ค. 62 ฐานภาษีน้ำตาลใหม่จะถูกนำมาใช้ทำให้ต้นทุนภาษีเพิ่มจาก 1 บาทต่อลิตรเป็น 3 บาทต่อลิตร หากปริมาณน้ำตาลอยู่ในช่วง 14-18 กรัมต่อลิตร ซึ่งผู้ประกอบการเครื่องดื่มชั้นนำรวมทั้ง OSP ได้เตรียมการเรื่องนี้ด้วยการลดปริมาณน้ำตาลงให้ไม่เกินระดับที่กำหนด ส่งผลให้ปริมาณแคลอรี่ต่อขวดลดลงด้วย จึงคาดว่าผู้ประกอบการจะไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และยังได้ผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเรื่องน้ำตาลน้อย ทำให้ปริมาณแคลอรี่ต่อขวดไม่สูงอีกด้วย

Back to top button