SC ย้ำเป้ายอดโอนตามนัด 6.5 พันลบ. กางแผนปี 63 ผุด 3 คอนโดฯใหม่มูลค่า 1 หมื่นลบ.
SC ย้ำเป้ายอดโอนตามนัด 6.5 พันลบ. กางแผนปี 63 ผุด 3 คอนโดฯใหม่มูลค่า 1 หมื่นลบ.
นายประยงค์ยุทธ อิทธิรัตน์ชัย รองหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านพัฒนาทรัพย์สินแนวสูง บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยว่า แผนการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมในปี 63 เบื้องต้นจะเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีที่ดินที่รองรับการพัฒนาไว้ทั้งหมดแล้ว
โดยมี 1 โครงการได้เลื่อนเปิดขายจากปีนี้ คือ คอนโดมิเนียม The Crest Park Residences ใกล้ห้าแยกลาดพร้าว มูลค่า 3.5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับ Nishitetsu Group ซึ่งแผนการเปิดคอนโดมิเนียมใหม่ในปี 63 จะนำเสนอคณะผู้บริหารในวันนี้
ส่วนการโอนโครงการคอนโดมิเนียมในปี 62 บริษัทยังมั่นใจทำได้ตามเป้าหมาย 6.5 พันล้านบาท โดยในช่วงที่ผ่านมายังมียอดการโอนโครงการที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายและสามารถโอนได้ทันทีมี 3 โครงการ ได้แก่ ร SALADAENG ONE ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 70-80%, BEATNIQ Sukhumvit 32 มียอดขายแล้ว 60% และ 28 Chidlom เริ่มโอนไปแล้วเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ปัจจุบันทำยอดขายไปได้แล้ว 60-70%
นอกจากนี้ ในช่วงเดือน ธ.ค.62 บริษัทเตรียมโอนโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จใหม่ 2 โครงการ ได้แก่ Centric รัชโยธิน มูลค่า 1.5 พันล้านบาท ทำยอดขายได้แล้วกว่า 70% และ Chamber อ่อนนุช สเตชั่น มูลค่า 1.7 พันล้านบาท ซึ่งจะมีการโอนอาคาร A ในช่วงต้นเดือนธ.ค.มูลค่า 600-700 ล้านบาท ซึ่งมียอดขายแล้ว 95% จะเข้ามาสนับสนุนยอดโอนในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
สำหรับการโอนโครงการ Chamber อ่อนนุช สเตชั่น อาคาร B และ C จะทยอยโอนในปี 63 หลังจากเปิดการขายในวันที่ 9-10 พ.ย.นี้ ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท บริษัทคาดว่าจะปิดการขายและโอนโครงการทั้ง 100% ภายในสิ้นปี 63
นายประยงค์ยุทธ์ กล่าวถึง มาตรการสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ในการยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนองสำหรับที่อยู่อาศัยที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทนั้น มองว่าส่งผลบวกต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้บ้าง และส่งผลดีต่อกลุ่มผู้ประกอบการรายอื่นที่มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทเป็นส่วนใหญ่ แต่สำหรับ SC มีโครงการระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทน้อยมาก โดยเฉพาะกลุ่มคอนโดมิเนียมแทบจะไม่มีเลย ทำให้มาตรการสนับสนุนอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐที่ออกมาไม่ส่งผลบวกต่อบริษัทมากนัก
อย่างไรก็ตาม การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาที่ 1.25% ต่อปี มองว่าเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์และบริษัทด้วย เพราะเป็นปัจจัยหนุนที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจโอนได้เร็วขึ้น เนื่องจากดอกเบี้ยจ่ายของลูกค้าลดลงตามไปด้วย และยังส่งผลทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงได้บ้างจากที่แข็งค่าค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลบวกต่อการซื้อที่อยู่อาศัยของลูกค้าชาวต่างชาติที่ทำให้ราคาถูกลงบ้าง น่าจะช่วยให้ลูกค้าต่างชาติตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้นด้วย โดยเฉพาะโครงการ Chamber อ่อนนุช สเตชั่น ที่มีลูกค้าต่างชาติชาวจีน ไต้หวั่น สิงคโปร์ ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยมีสัดส่วนลูกค้าชาวต่างชาติมากถึง 20%