SISB ปิดเทรดบวก 3% ทำ “ออลไทม์ไฮ” ผบห.วางเป้าผลงานปีหน้าโต 20%
SISB ปิดเทรดบวก 3% ทำ “ออลไทม์ไฮ” ผบห.วางเป้าผลงานปีหน้าโต 20%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB ปิดตลาดวันนี้ (22 พ.ย.62) ที่ระดับ 9.30 บาท ปรับตัวขึ้น 0.30 บาท หรือ 3.33% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 80.81 ล้านบาท โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ด้าน นายยิว ฮอค โคว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสไอเอสบี (SISB) เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายในปี 63 รายได้จะเติบโต 15-20% จากปีนี้ ตามจำนวนนักเรียนใหม่เพิ่มไม่ต่ำกว่า 200 คน ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน บริษัทมีนโยบายขยายการศึกษาให้เข้าถึงนักเรียนมากขึ้น โดยปัจจุบันได้ศึกษาและเจรจากับพันธมิตรหลายรายเพื่อร่วมลงทุนและเข้าซื้อกิจการทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด และต่างประเทศ เพื่อต่อยอดและขยายธุรกิจ แต่ยังไม่มีข้อสรุปในระยะเวลาอันใกล้ นี้เนื่องจากต้องใช้เวลาในการเจรจา
ขณะที่ล่าสุดบริษัทได้เข้าซื้อที่ดินในทำเลใกล้เคียงโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ธนบุรี พื้นที่ประมาณ 8 ไร่ มูลค่าราว 70 ล้านบาท เพื่อขยายความสามารถรองรับนักเรียนเพิ่ม เบื้องต้นประเมินมูลค่าลงทุน (ค่าก่อสร้าง) ประมาณ 300 ล้านบาท รองรับนักเรียน 600 คน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบอาคาร จะเริ่มก่อสร้างในช่วงปลายปี 63 และเปิดให้บริการในเดือน ส.ค.64
สำหรับแหล่งเงินทุนมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 1,000 ล้านบาท และมีเงินระดมทุนจากการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่มีอยู่มากกว่า 200 ล้านบาท
ขณะที่หลักสูตร The International Baccalaureate Diploma Programme (IBDP) ซึ่งเป็นหลักสูตรใหม่ที่เน้นความหลากหลายของภาษา และการทำกิจกรรม เพื่อปูพื้นฐานนักเรียนเข้าสู่ระดับมหาวิทยาลัยและเพิ่มทางเลือกในการเรียนมากขึ้น โดยจะเปิดให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาได้เลือกเรียน ล่าสุดได้รับการอนุมัติหลักสูตรจาก International Baccalaureate Organization หรือ IBO ประเทศสวิตเซอร์แลนด์แล้วในวันที่ 29 ต.ค. 62 และจะเริ่มเปิดสอนได้ภายในเดือน ส.ค.63
อย่างไรก็ตาม การเปิดสอนหลักสูตร IBDP จะไม่มีการเพิ่มค่าเทอม เนื่องจากบริษัทต้องการพัฒนาคุณภาพของนักเรียนมากกว่า
ขณะที่ผลประกอบการในปีนี้ นายยิว ฮอค โค กล่าวว่า บริษัทมั่นใจจำนวนนักเรียนจะเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ประมาณ 200-250 คนต่อปี หลังจากช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมามีจำนวนนักเรียนใหม่เพิ่มขึ้น 213 คน
ทั้งนี้ ยอดนักเรียนใหม่ที่เพิ่มขึ้นจะผลักดันให้ผลการดำเนินงานของปี 62 เติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่ารายได้รวมจะเติบโต 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 947.35 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกมีรายได้รวมแล้ว 830.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 154.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116.50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย ณ สิ้นเดือน ก.ย.มีจำนวนนักเรียนรวม 2,582 คน แบ่งสัดส่วนเป็นนักเรียนไทย 85% และนักเรียนต่างชาติ 15%
โดยบริษัทมีนโยบายปรับขึ้นค่าเล่าเรียนประมาณ 5% ต่อปี อัตราการจ่ายค่าเทอมจะอยู่ที่ประมาณ 300,000-600,000 บาทต่อคนต่อเทอม ซึ่งจะมีค่าเทอมเฉลี่ยที่ประมาณเทอมละ 450,000 บาท ขณะที่อุตสาหกรรมการศึกษานานาชาติจะปรับขึ้นค่าเล่าเรียนประมาณ 3-15% ต่อปี และมีค่าเทอมประมาณเทอมละ 0.2-1 ล้านบาท