“บล.ภัทร” เคาะซื้อ BANPU อัพไซด์เฉียด 80% ชี้เหมืองถ่านหินชานซีสดใสดันผลงานแกร่ง

"บล.ภัทร" เคาะซื้อ BANPU อัพไซด์เฉียด 80% ชี้เหมืองถ่านหินชานซีสดใสดันผลงานแกร่ง


บริษัท หลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ บล.ภัทร ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU พร้อมประเมินราคาเป้าหมายที่ 20.70 บาทต่อหุ้น โดยมุ่งประเด็นไปที่เหมืองถ่านหินที่เกาเหอ มณฑลชานซี ประเทศจีน ซึ่ง BANPU ถือหุ้นในสัดส่วน 45% และจุดที่น่าสนใจก็คือกำไรตั้งแต่ปี 2560 ถึงไตรมาส 3/62 โดยมองว่านักลงทุนยังมองข้ามจุดสำคัญตรงนี้ไปอยู่ ซึ่งเหมืองนี้มีกิจการที่เข็มแข็ง

สำหรับเหมืองถ่านหินดังกล่าวนั้น BANPU ได้เข้าถือกิจการด้วยสัดส่วน 45% ตั้งแต่สิบปีที่แล้วเมื่อครั้งที่ยังอยู่ในช่วงพัฒนาช่วงแรกอยู่ โดยสัดส่วนอีก 55% นั้นถือโดยกลุ่มบริษัท Lu’an ของประเทศจีน

ทั้งนี้การดำเนินงานของเหมืองดังกล่าวสามารถผลิตถ่านหินได้ราว 4 ล้านตันต่อปี จนถึง 10 ล้านตันต่อปี ในปี 2559 – 2561 ซึ่งถ่านหินที่ผลิตจากเหมืองนี้มีคุณภาพสูง และมีปริมาณความร้อนอยู่ที่ 6,000-7,600 กิโลแคลอรี นอกจากนั้นยังมีสารกัมถันที่ต่ำอีกด้วย ดังนั้นจึงทำให้สามารถเรียกราคาจากถ่านหินได้สูงเมื่อเทียบกับเกณฑ์เปรียบเทียบสมรรถนะของ Newcastle (Newcastle Benchmark)

อีกทั้งถ่านหินที่ผลิตออกมาจะถูกลำเลียงลงบนสายพานไปยังโรงไฟฟ้าถ่านหินใกล้ๆ ซึ่งถือว่าเป็น Captive Market หรือการต้องซื้อสินค้าเนื่องจากมีตัวเลือกที่จำกัด ไม่สามารถเลือกซื้อได้จากหลายทางเลือก โดยมีปริมาณสำรองถ่านหินอยู่ในระดับสูงที่ 134.7 ล้านตันสิ้นสุดปี 2561

ทั้งนี้ในปี 2559 เหมืองถ่านหินมีกำไรสุทธิลดลงไปถึงจุดต่ำสุดที่ 61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย BANPU รับส่วนของกำไรสุทธิมา 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นผลจากราคาถ่านหินที่ทรุดลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม กำไรของเหมืองเริ่มฟื้นตัวในปี 2560 โดยมีกำไร 189 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปี 2561 มีกำไร 254 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับการฟื้นตัวของราคาถ่านหินด้วยเช่นกัน ทำให้ BANPU รับรู้กำไรในปี 2560 และ 2561 ที่ 85 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 114 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ

แม้ว่าราคาถ่านหินของ Newcastle Benchmark จะอ่อนแอในตลาดต่างประเทศในงวด 9 เดือนแรกของปี 2562 ราคาถ่านหินจากเหมืองที่ Gaohe นั้นยังมีความยืดหยุ่น และแข็งแกร่ง โดยราคาอยู่ที่ 91 ดอลลาร์ต่อตันในไตรมาส 1/62 จากนั้นปรับขึ้นมาเป็น 94 ดอลลาร์ต่อตันในไตรมาส 2/62 และลดลงมาอยู่ที่ 84 ดอลลาร์ต่อตันในไตรมาส 3/62 จึงส่งผลให้ BANPU รับรู้กำไร 24.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 1/62 ส่วนในไตรมาส 2/62 มีกำไร 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในไตรมาส 3/62 มีกำไร 23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ ราคาหุ้น BANPU ปิดตลาดวันนี้ (28 พ.ย.) อยู่ที่ 11.70 บาท ลบ 0.10 บาท หรือ 0.85% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 134.50 ล้านบาท โดยมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายของบล.ภัทรที่ 20.70 บาท อยู่ 76.92%

Back to top button