กองทุนเก็บแบงก์

วานนี้หุ้นกลุ่มธนาคารพากันขึ้นยกแผง


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

วานนี้หุ้นกลุ่มธนาคารพากันขึ้นยกแผง

ยกเว้น TMB ที่มีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง หลังก่อนหน้านี้ ราคาค่อย ๆ ทยอยวิ่งขึ้นมา

หากย้อนกลับไปกูเส้นกราฟหุ้นกลุ่มแบงก์

จะพบว่า นับจากวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา

เส้นกราฟวิ่งขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญเลยล่ะ

ดัชนีกลุ่มแบงก์จากระดับ 423 จุด (ณ 16 ธ.ค.) ล่าสุดขึ้นมาอยู่ที่ 437 จุด หรือขึ้นมากว่า 3.30% ในช่วง 8 วันทำการ

3  แบงก์ใหญ่ ที่นำโดย BBL KBANK และ KTB ราคาขึ้นมาโดยตลอด

ยกเว้น SCB ที่ราคาหุ้นในช่วงเวลาดังกล่าวปรับลงมาบ้าง อาจมาจากก่อนหน้านี้ ราคาวิ่งขึ้นมาแล้ว ทำให้มีการขายทำกำไรกันออกมาบ้าง

ราคาหุ้นที่วิ่งขึ้นมาแบบนี้

แน่นอนว่า มีเฉพาะกลุ่มนักลงทุนที่มีเงินหน้าตักโดยเฉพาะ เท่านั้นที่จะดันราคาขึ้นมาได้

และไม่พ้นนักลงทุนสถาบัน ซึ่งน่าจะเป็น “พี่กอง” หรือกองทุนต่าง ๆ

มีข้อมูลเข้ามาซัพพอร์ตเกี่ยวกับหุ้นกลุ่มแบงก์

เป็นข้อมูลสินเชื่อ เงินฝาก และสภาพคล่อง ของธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง

สิ้นสุด ณ สิ้นเดือนพ.ย. 62 ที่รวบรวมโดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

สินเชื่อสุทธิในเดือน พ.ย. 62 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย

มียอดคงค้างสินเชื่อสุทธิเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าประมาณ 2.22 หมื่นล้านบาท หรือ 0.19% เป็น 11.72 ล้านล้านบาท

ทำให้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

สินเชื่อเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอลงมาที่ 1.82% และเพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อน 0.78%

ทว่า เป็นภาพที่ค่อนข้างอ่อนแอเมื่อเทียบกับช่วง 11 เดือนแรกของปี 2561 ที่เห็นภาพการขยับขึ้นของสินเชื่อ 4.1%

ด้านเงินฝากเดือน พ.ย. 62 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนเล็กน้อย ส่วนใหญ่ลดลงในบัญชีเงินฝากประจำของธนาคารขนาดใหญ่และกลาง และบางส่วนในบัญชีเงินฝากกระแสรายวันของภาครัฐ

ยอดคงค้างเงินฝาก ณ พ.ย. 62 ลดลงจากเดือนก่อน 1.74 หมื่นล้านบาท หรือ 0.13% เป็น 12.99 ล้านล้านบาท

แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนและสิ้นปีก่อนแล้ว

เงินฝากของธนาคารพาณิชย์ในภาพรวมยังเติบโตดีที่ 4.40% และ 3.27% จากสิ้นปี 2561

ตัวเลขนี้สูงกว่าการเติบโตของสินเชื่อ

ส่งผลทำให้สภาพคล่องในระบบธนาคาร ณ สิ้นเดือนพ.ย. 62 ผ่อนคลายลงมาที่ 95.4% จากระดับ 97.7% ณ สิ้นปี 2561

และจากการรวบรวมข้อมูลแคมเปญเงินฝากออกใหม่เดือนพ.ย. 62

พบว่า มีการออกแคมเปญผลิตภัณฑ์เงินฝากใหม่ยังคงมีทิศทางชะลอลง และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดแทนผลิตภัณฑ์เงินฝากรุ่นที่ครบกำหนด และแคมเปญพิเศษบางรุ่นให้อัตราดอกเบี้ยต่ำลง

ถือเป็นสถานการณ์ที่สอดคล้องกับยอดคงค้างเงินฝากที่ปรับลดลงในระหว่างเดือน

มามองทิศทางในปี 2563 กันบ้าง

มีการประมาณการสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยที่ 3.0-3.8%

แม้เบื้องต้นจะประเมินว่าทิศทางเศรษฐกิจปี 2563 น่าจะปรับตัวดีขึ้น

และคงมีส่วนช่วยกระตุ้นการเบิกใช้วงเงินสินเชื่อของภาคธุรกิจให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2562

แต่ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามในปีหน้า จากโอกาสและความเสี่ยงในส่วนของสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อเอสเอ็มอี ที่อาจจะมีผลต่อภาพรวมการเติบโตของสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ไทย

Back to top button