EPCO ปิดดีลขายโรงไฟฟ้าเวียดนาม 1.26 พันลบ. บุ๊กไตรมาส 4 ทันที
EPCO ปิดดีลขายโรงไฟฟ้าเวียดนาม 1.26 พันลบ. บุ๊กไตรมาส 4 ทันที
บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO เปิดเผยข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ระบุว่า ตามที่บริษัทฯได้รายงานมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2562 เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2562 ในเรื่องการอนุมัติให้บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (EP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ (โดยบริษัทฯถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 75 ของหุ้นทั้งหมดใน EP) ทำการขายหุ้นและหนี้ของบริษัท โซล่าร์ พาวเวอร์ แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (SPM) ให้แก่ บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) (BGC หรือ “ผู้ซื้อ”) ในมูลค่าประมาณ 1,259 ล้านบาท
โดยในปัจจุบัน EP ถือหุ้นร้อยละ 100 ใน SPM และ SPM ถือหุ้นร้อยละ 67 ของหุ้นทั้งหมด ในบริษัท Phu Khanh Power Joint Stock Company (PKS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่ง PKS ประกอบกิจการธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ Xuan Tho 1 และ โครงการ Xuan Tho 2 มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 99.216 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดฟูเยี้ยน ประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามนั้น
ทั้งนี้ ภายหลังจากการอนุมัติดังกล่าว EP และ ผู้ซื้อได้ทำสัญญาซื้อขายหุ้นและหนี้ ฉบับลงวันที่ 6 ก.ย.2562 เรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องด้วยผู้รับเหมาก่อสร้างของโครงการทั้ง 2 โครงการ ยังคงมีงานก่อสร้างและซ่อมแซมบางส่วนไม่แล้วเสร็จ (โดยงานในส่วนดังกล่าวไม่ได้มีผลกระทบต่อการผลิตและขายพลังงานไฟฟ้าของโครงการ) EP และผู้ซื้อจึงตกลงแก้ไขเปลี่ยนแปลงงวดการชำระเงินตามสัญญาซื้อขาย
โดยให้กันเงินประมาณร้อยละ 15 ของราคาซื้อขายหุ้นและหนี้จนกว่าบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างของโครงการทั้ง 2 โครงการจะดำเนินการก่อสร้างและซ่อมแซมบางส่วนแล้วเสร็จ ณ วันที่ 27 ธ.ค.2562 EP ได้โอนหุ้นและหนี้ให้แก่ผู้ซื้อ โดย EP ได้รับเงินค่าขายหุ้นและหนี้แล้วทั้งสิ้น 1,070 ล้านบาท โดยงวดสุดท้าย ผู้ซื้อต้องชำระเงินให้แก่ EP ในส่วนที่เหลือทั้งหมด
อย่างไรก็ดี ผู้ซื้อจะชำระเงินงวดที่สามให้แก่ EP ภายใน 3 วันทำการ หลังจากที่ (ก) ผู้ซื้อ และ EP สามารถตกลงเรื่องการตรวจสอบงบการเงินรวมของ SPM และ PKS (SPM Special Audit) และ (ข) วันที่วิศวกรที่ปรึกษา (Owner’s Engineer) ยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรว่าได้ดำเนินการก่อสร้างและซ่อมแซมตามที่ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในเดือนมี.ค.2563
ทั้งนี้ ในกรณีที่ค่าก่อสร้างและซ่อมแซมมีจำนวนสูงกว่าค่าซ่อมแซมที่ตกลงกันไว้แล้ว ผู้ซื้อมีสิทธิหักค่าก่อสร้างและซ่อมแซมสำหรับงานส่วนที่เหลือจากเงินงวดสุดท้ายได้ตามที่วิศวกรที่ปรึกษากำหนด