ERW จะดีขึ้นปี 63!

คาดการณ์ภาพรวมปี 62 ของ ERW อาจยังไม่สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย แต่ยังรักษาผลประกอบการได้อยู่ ส่วนแนวโน้มปี 63 จะดีขึ้นจากการที่ JW Marriott กลับมาให้บริการ


คุณค่าบริษัท

แม้ว่าจะมีการปรับลดการเติบโตของรายได้ช่วงปี 2562 ของ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW ลงมาเติบโตราวระดับ 3-5% จากเดิม 7% เนื่องจากในช่วง 9 เดือนแรก อัตราการเข้าพักของโรงแรมต่างจังหวัดเช่น สมุย ภูเก็ต ชะลอตัว แต่ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2562 จะกระเตื้องขึ้นเพราะเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว ได้รับผลดีจากมาตรการท่องเที่ยวของรัฐบาล จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งจีนและเอเชียเติบโตดีขึ้น

เช่นเดียวกับช่วงไตรมาส 3 สามารถทำผลงานได้ดี ! โดยผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2562 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,509.38 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,441.68 ล้านบาท ซึ่งรายได้จากการประกอบกิจการโรงแรมเพิ่มขึ้น และรายได้จากค่าเช่าห้องในอาคารและค่าบริการเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 42.64 ล้านบาท หรือ 0.0170 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 41.45 ล้านบาท หรือ 0.0165 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2562 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 4,698.40 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 4,590.38 ล้านบาท แต่ทางด้านผลกำไรลดลงเหลือ 269.95 ล้านบาท หรือ 0.1075 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 356.63 ล้านบาท หรือ 0.1424 บาทต่อหุ้น

ดังนั้นจึงคาดการณ์ภาพรวมทั้งปี 2562 อาจยังไม่สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายเดิมได้ ! แต่ถึงอย่างไรก็ยังรักษาผลประกอบการได้อยู่…

นอกจากนี้นักวิเคราะห์มองแนวโน้มปี 2563 คาดว่าจะดีขึ้นจากการที่ JW Marriott กลับมาให้บริการ และไตรมาส 4 ปี 2562 มีเปิดโรงแรมใหม่ 4 แห่ง โดยเป็น Hop Inn ในไทย 3 แห่ง (หาดใหญ่ รังสิต นครปฐม) และ Mercure Ibis สุขุมวิท 24 ทำให้สิ้นปี 2562 มีโรงแรมในเครือทั้งหมด 70 แห่ง ห้องพักรวม 9,500 ห้อง ซึ่งโรงแรมใหม่จะส่งผลดีต่อการเติบโตในปี 2563

ในส่วนทางนักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส มอง ERW มีจุดเด่นที่มีโรงแรมทุกระดับ ครอบคลุมลูกค้าได้จำนวนมากและหลากหลายทำเล มีความสามารถในการทำกำไรดี โดย EBITDA margin อยู่ที่ 25-26% เพราะมี Economy of scale บริษัทขยายการลงทุนไปต่างประเทศ คือ ฟิลิปปินส์ ซึ่งก็ไปได้ดี โดยในไตรมาส 3/2562 RevPar ของโรงแรม Hop Inn ในฟิลิปปินส์เติบโตได้ 7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน (ของ Hop Inn ในไทยโต 1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน)

ทั้งนี้แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐาน 6.80 บาท

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. นายสุขกาญจน์ วัธนเวคิน 336,439,178 หุ้น 13.39%
  2. บริษัท ซิตี้ โฮลดิ้ง จำกัด 232,093,100 หุ้น 9.24%
  3. นางวรรณสมร วรรณเมธี 149,757,004 หุ้น 5.96%
  4. บริษัท ทุนมิตรสยาม จำกัด 144,488,645 หุ้น 5.75%
  5. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 105,472,204 หุ้น 4.20%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ
  2. นายเพชร ไกรนุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่, กรรมการ
  3. นางพนิดา เทพกาญจนา กรรมการ
  4. นายสุพล วัธนเวคิน กรรมการ
  5. นายกวิน ว่องกุศลกิจ กรรมการ

Back to top button