“โนมูระฯ” ฟันธง PYLON กำไรไตรมาส 4 โตออลไทม์ไฮ! เคาะเป้าสูง 7.60 บ.

"โนมูระฯ" ฟันธง PYLON กำไรไตรมาส 4 โตออลไทม์ไฮ! ลุ้นคว้างานบิ๊กโปรเจคเพิ่ม หนุนงานในมือกระฉูด เคาะเป้าสูง 7.60 บ. อัพได์เฉียด 50%


บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON พร้อมประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 2563 ที่ 7.60 บาทต่อหุ้น อิง PER ปี 2563 ที่ระดับ 22.2 เท่า ในขณะที่แนวโน้มกำไรปี 2563 ประเมินทำทาจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่ระดับ 256.8 ล้านบาท เติบโต 11% เมื่อเทียบจากปีก่อน โดยหลังจากประกาศงบไตรมาส 4/62 มีแนวโน้มประเมินประมาณการกำไรปี 2563-2564 อีกครั้ง หลังแนวโน้มอุตสาหกรรมกลับมาโดดเด่น ผนวกกับปริมาณชุดเสาเข็มเจาะของบริษัทเพิ่มขึ้นแตะ 31 ชุด และคาดว่าบริษัทจะจ่ายเงินปันผลงวดปี 2563 ที่ 0.25 บาทหรือเท่ากับ Dividend yield ที่ระดับ 4.9% ณ ราคาปัจจุบัน

โดยคาดกำไรปกติไตรมาส 4/62 ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 85.34 ล้านบาท ขยายตัว 42% เมื่อเทียบจากปีก่อน และเติบโต 80% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน จากจำนวนเสาเข็มเจาะใช้งานสูงเฉลี่ยถึง 22.5 ชุด เพิ่มขึ้นทั้งเมื่อเทียบจากปีก่อนและเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน โดยแรงหนุนหลักจากงานภาคเอกชน นำโดยโครงการศูนย์ประชุมสิริกิติ์ (ใช้เสาเข็ม 13 ชุด) ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ และโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เลื่อนรับรู้มาจากในช่วงไตรมาส 3/62 สอดคล้องกับรายได้รวมกลับมาเติบโตอีกครั้งที่ 408.3 ล้านบาท ขยายตัว 4% เมื่อเทียบจากปีก่อน และเติบโต 49% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน ส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นประเมินยังทรงตัวในระดับสูงที่ 29.8% นอกจากนี้ยอดสะสม Backlog เพิ่มขึ้นต่อเนื่องซึ่งเน้นโครงการของเอกชนเป็นหลัก ประเมินที่ 1.4 พันล้านบาท ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ต่อจากไตรมาสก่อนหน้าทยอยรับรู้รายได้จนถึงไตรมาส 3/63

ทั้งนี้หากกำไรไตรมาส 4/62 ออกมาตามคาด จะส่งผลให้กาไรสุทธิปี 2562 สูงกว่าประมาณการ 12% (คาด 241.8 ล้านบาท) ในขณะที่แนวโน้มกำไรโดดเด่นสวนทางกับอุตสาหกรรมที่อ่อนแอ จากสะสมงาน Backlog บนมือต่อเนื่องโดยในไตรมาส 1/63 จะยังคงรับรู้รายได้หลักจากโครงการศูนย์ประชุมสิริกิติ์ต่อเนื่อง (ม.ค.-ก.พ.2563) รวมกับส่วนเพิ่มงาน Silom Square (ตึกสีบุญเรืองเก่า) ช่วงปลายม.ค.2563 ส่งผลให้ไตรมาส 1/63 จำนวนเสาเข็มเจาะใช้งานคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องที่ 23-25 ชุด หนุนกำไรรายไตรมาสที่แข็งแกร่งอีก 1 ไตรมาส

นอกจากนี้งานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ จะทยอยมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วงไตรมาส 2/63 (ทางด่วนดาวคะนอง และรถไฟฟ้าความเร็วสูง 3 สนามบิน) ซึ่ง บล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมินงานภาครัฐจะเข้ามาเติมเต็ม Demand ของอุตสาหกรรมเสาเข็มในประเทศได้ ซึ่งจะสร้างโอกาสให้กับบริษัทได้เข้าร่วมจากมีความเชี่ยวชาญและเครื่องมือครบเครื่อง

ด้านราคาหุ้น PYLON ปิดตลาดวานนี้ (15 ม.ค.) อยู่ที่ 5.10 บาท บวก 0.05 บาท หรือ 0.99% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 6.20 ล้านบาท ส่งผลให้มีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายที่ 7.60 บาท อยู่ 49%

Back to top button