ERW รูดหนัก 7% นิวโลว์ในรอบ 2 ปีครึ่ง กังวลนทท.หด-ผลงานไตรมาส 4 ต่ำเซ่นเงินบาทแข็งค่า

ERW รูดหนัก 7% นิวโลว์ในรอบ 2 ปีครึ่ง กังวลนทท.หด-ผลงานไตรมาส 4 ต่ำเซ่นเงินบาทแข็งค่า


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW ล่าสุด ณ เวลา 10.29 น. อยู่ที่ระดับ 4.84 บาท ปรับตัวลดลง 0.36 บาท หรือ 6.92% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 88.18 ล้านบาท

ทั้งนี้ นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดราคาพื้นฐานของ ERW มาเหลือ 6 บาท จากเดิมที่ 7.10 บาท แต่ยังคงคำแนะนำ”ซื้อ”เนื่องจากทิศทางกำไรสุทธิในไตรมาส 4/62 มีโอกาสอาจต่ำกว่าคาด แม้ว่าแนวโน้มรายได้เฉลี่ยต่อห้องทั้งหมด (RevPar) ในเดือน ต.ค.-พ.ย.62 จะสามารถพลิกกลับมาเป็นบวกได้ประมาณ 3% แต่ในเดือน ธ.ค.62 กลับมาหดตัวลงอย่างรุนแรงเป็นตัวเลขสองหลักเนื่องจากค่าห้องพักเฉลี่ย ปรับตัวลงแรง โดยเฉพาะโรงแรมในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนหนึ่งเกิดจากค่าเงินบาทแข็งค่าและการแข่งขันรุนแรงทำให้ ERW ต้องลดราคาเพื่อแย่งชิงลูกค้ากระทบต่อ RevPar ในไตรมาส 4/62 จะยังมีโอกาสติดลบ

ดังนั้น จึงต้องปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 62 และปี 63 อย่างไรก็ตาม ยังคาดหวังเห็นการกำไรสุทธิในปี 63 จะกลับมาเติบโตได้ดีประมาณ 12% เมื่อเทียบกับฐานปี 62 เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษในส่วนของการตั้งสำรองพนักงาน และมีโอกาสปรับขึ้นค่าห้องราว 3-5% หลังจากปรับปรุงโรงแรมใหญ่อย่าง JW Marriott  แล้วเสร็จแล้ว พร้อมกับมีปัจจจัยบวกจากการเปิดโรงแรม HOP INN  ที่มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องเป็นบวกได้อย่างต่อเนื่องเพิ่มอีก 7 แห่ง

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยฯ ยังแนะติดตามปัจจัยเสี่ยงผลกระทบจากการใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS16 เรื่องของสัญญาเช่า ซึ่งจะทำให้มีค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าเสื่อมและดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น ปัจจุบันยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการกำไรสุทธิปี 63 นอกจากนั้นแนวโน้มค่าเงินบาทที่แข็งค่าอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อการท่องเที่ยวไทยในระยะถัดไปอย่างไร

ด้าน บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ โดยแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้มีมุมมองเป็นลบคาด SET Index อ่อนตัวทดสอบ 1,580 – 1,585 จุดก่อนจะสลับรีบาวด์ เนื่องจากภาวะตลาดขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุนและคาดว่านักลงทุนจะชะลอการซื้อขายเพื่อติดตามการประกาศงบ 62 ของกลุ่มธนาคารที่เหลือนอกจากนี้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาและค่าฝุ่น PM 2.5 ระดับสูงของไทยจะเป็นลบต่อกลุ่มท่องเที่ยว/โรงแรม รวมถึงกระแส Fund flow ต่างชาติที่เป็น Net Sell ต่อเนื่อง 8 วันราว 9 พันลบ.ที่ยังคงกดดันต่อทิศทางดัชนีในช่วงนี้

Back to top button