GPSC หวังเร่งปิดดีลซื้อ “โซลาร์ฟาร์ม” 9 โครงการ 39.5MW หลังยืดเยื้อนาน 2 ปี

GPSC หวังเร่งปิดดีลซื้อ “โซลาร์ฟาร์ม” 9 โครงการ 39.5MW หลังยืดเยื้อนาน 2 ปี


นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการเข้าซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) ในประเทศ จำนวน 9 โครงการ รวมกำลังการผลิต 39.5 เมกะวัตต์ มูลค่าราว 3.07 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถปิดดีลได้ภายในปีนี้ หลังจากที่มีความล่าช้ามานานหลังจากที่ได้ทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับกลุ่มผู้ขายตั้งแต่เมื่อปลายปี 61

“ตอนนี้รอว่าทางฝั่งผู้ขายจะดำเนินการตามเงื่อนไขบังคับก่อนการซื้อขายได้ครบ เหลือนิดเดียว แต่ต้องใช้เวลา ถ้าผู้ขายทำจบก็ปิดดีล เราก็หวังว่าน่าจะจบได้ปีนี้” นายชวลิต กล่าว

โดยปัจจุบัน GPSC มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 5,026 เมกะวัตต์ โดยเป็นโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องผลิตแล้ว 4,748 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลือจะทยอยเข้าระบบภายในปี 66

นายชวลิต กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ตามโครงการ Gas to Power ในเมียนมา ที่จะร่วมดำเนินการกับ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP นั้น ขณะนี้ได้ส่งแผนดำเนินการให้กับรัฐบาลเมียนมาแล้ว โดยยังไม่มีข้อสรุปสัดส่วนการถือหุ้นที่ชัดเจนเพราะจะมีพันธมิตรท้องถิ่นเข้าร่วมด้วย โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะมีความชัดเจนภายในไตรมาส 3/63

ด้านนายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ PTTEP กล่าวว่า ภายหลังจากโครงการได้รับอนุมัติจากรัฐบาลเมียนมาแล้ว ขั้นตอนการพัฒนาโครงการนั้น เบื้องต้นบริษัทเตรียมจะเพิ่มกำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติ จากแหล่งซอติก้าอีก 60 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน จากปัจจุบันที่ผลิตอยู่ 290 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน และผลิตก๊าซธรรมชาติจากแหล่ง M3 ที่อยู่ระหว่างสำรวจ เพื่อให้ได้ก๊าซรวม 400 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ป้อนให้โรงไฟฟ้ากำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งในส่วนโรงไฟฟ้านั้นคาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 3-4 ปี และไฟฟ้าที่ผลิตได้จะจำหน่ายภายในเมียนมา

 

Back to top button