UAC เตรียมเงินพันล้านชิงรฟฟ.ชุมชน ปักธงคว้า 20 เมกฯ ชูประสบการณ์พร้อม-พื้นฐานแน่น!
UAC เตรียมเงินพันล้านชิงรฟฟ.ชุมชน ปักธงคว้า 20 เมกฯ ชูประสบการณ์พร้อม-พื้นฐานแน่น!
นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ออกอากาศผ่านทางสถานีวิทยุกระจายเสียง SMM Sport Radio FM 96 MHz. และทางแฟนเพจ Facebook : ข่าวหุ้นธุรกิจ / Facebook : ข่าวหุ้นเจาะตลาด / YouTube Channel : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ วันที่ 3 มี.ค.2563 ช่วงเวลาประมาณ 9.40 น. ว่า โครงสร้างรายได้และการดำเนินงานของ UAC ในปัจจุบันมี 3 ส่วนธุรกิจ ประกอบด้วย 1.ธุรกิจเทรดดิ้ง 2.ธุรกิจพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก และ 3.ธุรกิจเคมีภัณฑ์
โดยแผนดำเนินธุรกิจในประเทศบริษัทมุ่งเน้นในเรื่องของโรงไฟฟ้าชุมชน ซึ่งบริษัทมีโรงไฟฟ้าต้นแบบอยู่ที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ อีกทั้งยังมีโรงไฟฟ้าชุมชนที่ จ.ขอนแก่น กำลังการผลิตประมาณ 3 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ได้ภายในปีนี้ และที่พร้อมจะนำเข้าร่วมโรงไฟฟ้าชุมชนที่จะจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบรอบแรก หรือ Quick Win
ทั้งนี้ตามแผนงานแล้ววันที่ 11 มี.ค.2563 จะมีการเปิดโครงการโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวออกมาเพื่อให้ผู้ที่สนใจเข้ายื่นโครงการ ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในได้ช่วงเดือนมี.ค.นี้
สำหรับรายละเอียดเบื้องต้นโรงไฟฟ้า Quick Win จะมีรายละเอียดและเปิดประมูลก่อน 100MW ซึ่งกำหนดการณ์คาดว่าจะพร้อมจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในปี 2563 ขณะที่จะมีการเปิดโรงไฟฟ้าชุมชนตามปกติอีก 600MW โดยคาดว่าการประมูลทั้ง 2 โครงการจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้
“บริษัทตั้งเป้าประมูลโรงไฟฟ้าชุมชนประมาณ 20MW และมั่นใจว่าด้วยงบลงทุนราว 2-3 พันล้านบาท รวมถึงประสบการณ์ ความพร้อม และศักยภาพทางด้านเทคโนโลยีการทำงานของ UAC จะได้รับการพิจารณา โดย Quick Win คาดว่าน่าจะได้ราว 3MW ซึ่งบริษัทมีโรงไฟฟ้ารองรับอยู่แล้ว”นายชัชพล กล่าว
ส่วนในอนาคตวางแผนว่าจะลงทุนในสปป.ลาว หลังจากได้รับสัมปทานการจัดการขยะในนครหลวงเวียงจันทร์ เป็นระยะเวลา 45 ปี โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าขยะ ขนาดกำลังผลิต 6 เมกะวัตต์ เฟส 1 ซึ่งเป็นในส่วนของการคัดแยกขยะในพื้นที่ และคาดว่าจะเสร็จสิ้นทั้งหมดราวปลายปี 2564 ส่วนอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) อยู่ที่ราว 15-16%