BJCHI ทุ่ม 208 ลบ.จ่ายปันผล 0.13 บ. เดินหน้ารับรู้แบ็คล็อก 3 พันลบ.

BJCHI ทุ่ม 208 ลบ.จ่ายปันผล 0.13 บ. เดินหน้ารับรู้แบ็คล็อก 3 พันลบ.


นายหยัง เจิน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ BJCHI เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นประจำงวดปี 2562 อัตราหุ้นละ 0.13 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินจำนวนไม่เกิน 208 ล้านบาท  ซึ่งการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวเป็นการจ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสมในส่วนของกำไรจากกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI)

ทั้งนี้ เงินปันผลจะได้รับยกเว้นไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย โดยบริษัทฯจะกำหนดให้วันที่ 18 มีนาคม 2563 เป็นวันให้สิทธิ ผู้ถือหุ้น (Record Date)ในการได้รับเงินปันผล ซึ่งบริษัทจะดำเนินการภายหลังจากที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ในวันที่ 24 เมษายน 2563

“ภาพรวมผลประกอบการปี 2562 มีทิศทางที่ดีขึ้นชัดเจน โดยมีกำไรสุทธิ 47.2 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุน เนื่องจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ก๊าซ และเหมืองแร่ที่ฟื้นตัว ทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้มีงานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ทยอยรับรู้รายได้จากโครงการ UPGN โครงการ Santos โครงการ Linde อย่างต่อเนื่อง ขณะที่โครงการขนาดใหญ่อย่าง Crisp บริษัทจะเริ่มรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ไตรมาสที่ 1/2563 เป็นต้นไป ” นายหยัง เจิน ลี กล่าว

นายหยัง เจิน ลี กล่าวต่อว่า แนวโน้มธุรกิจในปี 2563 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ซึ่ง ณ ปัจจุบันมีมูลค่างานในมือที่ตุนไว้แล้วกว่า  3,000 ล้านบาท และยังมีงานที่ยื่นประมูลไปแล้ว มูลค่ารวมกันกว่า 17,500 ล้านบาท  ซึ่งบริษัทฯ มองว่า ในปีนี้มีโอกาสอย่างมากที่จะได้รับงานเพิ่มเติมอีกในอนาคตอันใกล้นี้ ขณะที่ความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นปีนี้คาดว่าน่าจะอยู่ที่ 15-20% และหากบริษัทชนะการประมูลงานโครงการขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ น้ำมันและปิโตรเคมี ซึ่งคาดว่าจะรับทราบผลประมูลเร็วๆ นี้ จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ ในปีนี้ได้เป็นอย่างดี

อนึ่ง ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2562 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 47.2 ล้านบาท จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีผลขาดทุน 231.2 ล้านบาท  ขณะที่มีรายได้รวมเท่ากับ 2,073.2 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวมอยู่ที่ 943.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120% ปัจจัยที่ทำให้มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุน จากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ก๊าซ และเหมืองแร่ที่ฟื้นตัว

ทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้มีงานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ทยอยรับรู้รายได้จากโครงการ UPGN โครงการ Santos โครงการ Linde อย่างต่อเนื่อง ขณะที่โครงการขนาดใหญ่อย่าง Crisp บริษัทจะเริ่มรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญในปีนี้

Back to top button